สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียแถลงว่าได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 12.8 ล้านโดส จากบริษัทยาไฟเซอร์ของสหรัฐฯ ที่ร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี นับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทำข้อตกลงกับบริษัทยาของสหรัฐฯ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงระบุว่า ไฟเซอร์จะส่งมอบวัคซีนให้ล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส ในไตรมาสแรกของปี 2564 จากนั้นในไตรมาสที่สองอีก 1.7 ล้านโดส ไตรมาสที่สามอีก 5.8 ล้านโดส และไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 อีก 4.3 ล้านโดส
นายโมฮัมเหม็ด อัซมิน อาลี รัฐมนตรีพาณิชย์ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลคาดว่าจะได้รับวัคซีนชุดแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า และยังได้หารือกับบริษัทเวชภัณฑ์อื่นๆ เพื่อให้ได้วัคซีนเพิ่มเติม เพราะรัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อจะได้มีวัคซีนอย่างเพียงพอกับความต้องการ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยปริมาณของผู้ที่จำเป็นจะต้องได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทคได้ทำข้อตกลงกับหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ คาดว่าจะผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้มากถึง 50 ล้านโดส ในปี 2563 และเพิ่มเป็น 1,300 ล้านโดส ในปี 2564