นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยรายละเอียดสถานการณ์หลังจากที่พบกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยระบุว่า มีความเป็นห่วงอาการของผู้ป่วยคนที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และอายุมากถึง 95 ปี อย่างไรก็ตาม แพทย์รายงานว่าอาการโดยทั่วไปยังปกติดีอยู่
ขณะที่การสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อทั้งหมด 12 คน มีความชัดเจนว่า เกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร แต่มีคนที่10 กำลังดำเนินการสอบสวนโรคอยู่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย
ทั้งนี้ มีข้อที่สังเกตคือ ในส่วนของผู้ป่วยคนที่ 7 ซึ่งเป็นเสมียนอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง มีลูกคนหนึ่งอยู่ชั้น ม.5 ลูกอีกคนยังเล็กอยู่ ตอนนี้ตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว ผลเป็นลบ ไม่มีอาการ แต่เพื่อความมั่นใจให้ลูกพักรักษาตัวดูอาการ 14 วันก่อน
สำหรับอาการของผู้ป่วย 2 คน ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน นายแพทย์ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมีอาการไข้เล็กน้อย เริ่มให้ยารักษาที่ใช้รักษาเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำยามามอบให้กับทางจังหวัดประมาณ 1,000 เม็ด เนื่องจากยามีปริมาณจำกัด
การตรวจคัดกรองเชิงรุกของกลุ่มเสี่ยง ตรวจไปแล้ว 1,900 คน ตั้งเป้าตรวจกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 10,000 คน เพื่อมีโอกาสพบผู้ป่วยมากขึ้น จะได้ปลอดภัย เพราะยิ่งคัดกรองได้ดี ก็จะยิ่งควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีขึ้น และจะพยายามตรวจเชื้อให้จบภายใน 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จังหวัดสมุทรสาคร ยังไม่มีนโยบายล็อกดาวน์ แต่จะมีการยกเลิกจัดกิจกรรรมเคานต์ดาวน์ โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด จะประชุมพิจารณากันในวันที่ 22 ธันวาคมนี้
ส่วนกรณีที่มีบางคนระบุว่าควรจะดำเนินการกับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยืนยันว่า จังหวัดดำเนินการมาตลอด แต่ตอนนี้ต้องแยกออกจากกัน วันนี้เป็นเรื่องของสาธารณสุขเป็นหลัก การตรวจการคัดกรอง การซักประวัติ ต้องดำเนินการด้านสาธารณสุขอย่างเดียว อย่าเพิ่งนำกฎหมายเรื่องการลักลอบเข้าเมืองมาคุย เป้าหมายขณะนี้ต้องควบคุมโรคในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ จะพิจารณาหลังจากนี้ เพราะถ้าตอนนี้ไปใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อผลักดันแรงงานอย่างเดียว กลุ่มแรงงานจะหลบหนี จะทำให้เราไม่รู้เลยว่าไปหลบอยู่ที่ไหน จะทำให้การค้นหาโรคต่างๆ ยากยิ่งขึ้น