การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ขบวนรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือรถไฟฟ้าโมโนเรล ยี่ห้อ Bombardier รุ่น Innovia Monorail 300 ล็อตที่ 2 ที่จะนำมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งลงเรือเดินทางมาจากจีน ได้มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยล็อตที่ 2 นี้ บริษัท ซีอาร์อาร์ซี ผู่เจิ้น บอมบาร์ดิเออร์ ทรานสปอร์เทชัน ซิสเต็มส์ จำกัด ผู้ผลิต ได้ส่งขบวนรถมา 4 ขบวน 16 ตู้ แบ่งเป็น สายสีเหลือง 2 ขบวน 8 ตู้ และสายสีชมพู 2 ขบวน 8 ตู้
รายงานข่าวจาก รฟม. ระบุว่า ขณะนี้ขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล ล็อตที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการทางศุลกากร คาดว่าจะนำออกจากท่าเรือแหลมฉบัง และขนส่งมายังศูนย์ซ่อมบำรุงได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยศูนย์ซ่อมบำรุงสายสีเหลือง อยู่บริเวณสถานีศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ ส่วนสายสีชมพู อยู่ที่บริเวณสถานีมีนบุรี ถนนรามคำแหง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ขบวนรถจะทยอยมาอย่างต่อเนื่อง โดยต้นเดือนธันวาคมนี้ จะมาถึงอีก 4 ขบวน 16 ตู้ แบ่งเป็น สายสีเหลือง 2 ขบวน 8 ตู้ และสายสีชมพู 2 ขบวน 8 ตู้ เมื่อรวมกับล็อตแรกที่มาถึงแล้ว 2 ขบวน จะทำให้ในปี 2563 ได้รับขบวนรถทั้งสิ้น 10 ขบวน 40 ตู้ และคาดว่าบริษัทผู้ผลิตจะทยอยส่งมอบจนครบทั้ง 72 ขบวน 288 ตู้ แบ่งเป็น สายสีเหลือง 30 ขบวน และสายสีชมพู 42 ขบวน ภายในต้นปี 2565
สำหรับขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลล็อตแรก 2 ขบวน ที่มาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ในส่วนของขบวนที่จะใช้ในสายสีชมพูประกอบบางชิ้นส่วนที่ได้นำออกในระหว่างการขนส่ง เพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้จะติดตั้งระบบ และทดสอบการทำงานของอุปกรณ์รถในส่วนต่างๆ จากนั้นจะทดสอบเดินรถภายในศูนย์ซ่อมบำรุงก่อนจะดำเนินการทดสอบแบบเต็มระบบต่อไป คาดว่าจะเริ่มทดสอบได้ตั้งแต่ต้นปี 2564
ทั้งนี้ ตามแผนที่วางไว้ ในเดือนเมษายน 2564 จะทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial run) และในเดือนกรกฎาคม 2564 จะเปิดให้บริการเดินรถบางส่วนก่อนกำหนด ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ก่อนที่จะเปิดให้บริการเดินรถเชิงพาณิชย์บางช่วงทั้ง 2 สายได้ในเดือนตุลาคม 2564 และจะเปิดครบทั้งเส้นของสายสีเหลืองในเดือนกรกฎาคม 2565 ส่วนสายสีชมพูในเดือนตุลาคม 2565
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู พบว่า จากข้อมูลสิ้นเดือนตุลาคม 2563 คืบหน้า 64.23% ส่วนสายสีเหลืองคืบหน้า 65.96%
