นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า ออสเตรเลียจะอนุญาตให้พลเมืองอีก 450 คน เดินทางกลับประเทศก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับเพดานมาตรการจำกัดจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเพื่อควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 จากต่างประเทศ
ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ออสเตรเลียจำกัดจำนวนพลเมืองออสเตรเลียที่จะเดินทางจากต่างประเทศกลับบ้านในแต่ละสัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ออสเตรเลียอนุญาตให้พลเมืองและผู้ที่พำนักในออสเตรเลียเป็นการถาวรเดินทางกลับประเทศได้สัปดาห์ละ 6,315 คน แต่ยังมีชาวออสเตรเลียที่ติดค้างในต่างประเทศอีกหลายพันคน และกระแสกดดันรัฐบาลก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า รัฐแทสเมเนียตกลงที่จะให้ที่พักแก่ชาวออสเตรเลียอีก 450 คน ที่จะกักตัวเพื่อดูอาการ ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังดำเนินการทุกวิธีการเพื่อช่วยเหลือชาวออสเตรเลียจำนวนมากให้สามารถกลับบ้านได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 ในออสเตรเลียเกิดขึ้นหลังจากผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในรัฐวิกตอเรีย แพร่เชื้อกับพนักงานโรงแรมในขณะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของรัฐบาล และพนักงานโรงแรมเหล่านี้ก็แพร่เชื้อให้กับสมาชิกในชุมชน หลังจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นวันละกว่า 700 ราย ทำให้รัฐวิกตอเรียซึงมีประชากรเกือบ 5 ล้านคน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเป็นเวลากว่า 100 วัน ซึ่งทำให้การระบาดลดลง และในวันนี้รัฐวิกตอเรียก็ประกาศว่าไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มา 8 วันติดต่อกันแล้ว