นายแพทย์สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ เปิดเผยผลการสอบสวนโรคชายชาวอินเดียที่ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาในไทยเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา และไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงทำงานเป็นพนักงานร้านอาหารในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยอาศัยอยู่กับเพื่อนและญาติรวม 4 คน ต่อมาชายคนดังกล่าวดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน จึงต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจโรคที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยเจ้าตัวไม่มีอาการป่วยใดๆ ซึ่งผลการตรวจของโรงพยาบาลเอกชนในครั้งแรก พบว่าผลเป็นบวก จึงแจ้งข้อมูลและส่งตัวมาตรวจยืนยันอีกครั้งที่โรงพยาบาลกระบี่ โดยเมื่อรับตัวมารักษา ก็ได้นำตัวญาติและเพื่อนอีก 3 คน มาทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ซึ่งผลการตรวจครั้งที่สองของชายคนดังกล่าว พร้อมกับเพื่อนและญาติ ได้ผลเป็นลบ จึงอนุญาตให้เพื่อนและญาติทั้ง 3 คนกลับบ้านไปได้ก่อน ส่วนตัวชายอินเดียคนดังกล่าว ยังคงต้องกักตัวเพื่อส่งตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งไปตรวจหาเชื้อยืนยันอีกครั้งเพื่อความชัดเจน
ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้รับผลการตรวจครั้งที่ 3 ยังคงมีผลเป็นลบ แต่โรงพยาบาลกระบี่ ต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อจริง จึงยังกักตัวชายคนดังกล่าวไว้ที่ห้องความดันลบ และส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจหาเชื้ออีกครั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11/1 ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยขณะนี้ยังรอผลการตรวจอยู่ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนโรคอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดชายชาวอินเดีย ในขณะที่ไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลเอกชน มีจำนวน 11 คน หลังจากนั้นเดินทางกลับบ้านพัก ณ เกาะพีพี มีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 8 คน รวมทั้งหมด 19 คน
