พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปราศรัยในโอกาสวันสหประชาชาติ 24 ตุลาคม 2563 ว่า วันสหประชาชาติ เป็นวันแห่งการก่อตั้งองค์การสากลระหว่างประเทศที่มีความสำคัญที่สุด หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคง ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ตลอดจนดำเนินงานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่มวลมนุษยชาติ โดยวันสหประชาชาติปีนี้ มีความสำคัญ เนื่องจากครบรอบ 75 ปี แห่งการก่อตั้งสหประชาชาติ ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ความร่วมมือร่วมใจของรัฐสมาชิกเป็นหนทางที่จะนำพวกเราไปสู่การหลุดพ้นจากภัยคุกคามต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน และสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปในบริบทของความท้าทายใหม่ ๆ ที่นับวันจะทวีความซับซ้อนและผันแปร ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 และจะครบรอบ 75 ปี ของการเป็นสมาชิกในปีหน้า ที่ผ่านมา ไทยยึดมั่นในระบบพหุภาคีนิยมและสนับสนุนสหประชาชาติ โดยได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศผ่านเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอันล้ำค่าของเรา รวมถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุม ซึ่งประเทศต่าง ๆ ชื่นชมไทยประเด็นเหล่านี้
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ความมุ่งมั่นของไทยที่จะต่อยอดความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ การมีส่วนร่วมของประชาชนและหุ้นส่วนต่าง ๆ ในการสนับสนุนพันธกิจของไทยในสหประชาชาติ จะส่งเสริมให้ไทยมีบทบาทที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสหประชาชาติสู่การบรรลุเป้าประสงค์ใน 3 เสาหลัก ด้านการรักษาสันติภาพและความมั่นคง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
พร้อมกล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้นำทั่วโลกเข้าร่วมการประชุมแบบทางไกล และตนเองได้กล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไป โดยย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐสมาชิกในการฟันฝ่าความท้าทายต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า วัคซีนและยารักษาโควิด-19 ต้องเป็นสินค้าสาธารณะของโลกที่ทุกประเทศจะต้องมีสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งสหประชาชาติจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสวันสหประชาชาติ ปี 2563 นั้น ขอย้ำว่ารัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนสหประชาชาติ และทำงานร่วมกันกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อให้โลกของเรากลับมาดีขึ้นกว่าเดิม เปี่ยมไปด้วยความผาสุกและมีการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้เป็นโลกที่น่าอยู่สำหรับพวกเรา และอนุชนคนรุ่นหลังต่อไป สุดท้ายนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ด้วยการสนับสนุนจากประชาชนไทยทุกคน
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ความมุ่งมั่นของไทยที่จะต่อยอดความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ การมีส่วนร่วมของประชาชนและหุ้นส่วนต่าง ๆ ในการสนับสนุนพันธกิจของไทยในสหประชาชาติ จะส่งเสริมให้ไทยมีบทบาทที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสหประชาชาติสู่การบรรลุเป้าประสงค์ใน 3 เสาหลัก ด้านการรักษาสันติภาพและความมั่นคง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
พร้อมกล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผู้นำทั่วโลกเข้าร่วมการประชุมแบบทางไกล และตนเองได้กล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไป โดยย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียวของรัฐสมาชิกในการฟันฝ่าความท้าทายต่าง ๆ พร้อมย้ำว่า วัคซีนและยารักษาโควิด-19 ต้องเป็นสินค้าสาธารณะของโลกที่ทุกประเทศจะต้องมีสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งสหประชาชาติจำเป็นต้องมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสวันสหประชาชาติ ปี 2563 นั้น ขอย้ำว่ารัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนสหประชาชาติ และทำงานร่วมกันกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อให้โลกของเรากลับมาดีขึ้นกว่าเดิม เปี่ยมไปด้วยความผาสุกและมีการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้เป็นโลกที่น่าอยู่สำหรับพวกเรา และอนุชนคนรุ่นหลังต่อไป สุดท้ายนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ด้วยการสนับสนุนจากประชาชนไทยทุกคน