xs
xsm
sm
md
lg

กอร.ฉ.ประกาศห้ามใช้เส้นทางคมนาคม อาคาร หรือสถานที่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงนามในคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 9/2563 เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม อาคาร หรือสถานที่ โดยระบุว่า

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 นั้น เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน และมิให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ อาศัยอานาจตามความในข้อ 3 และข้อ 4 ของข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 และข้อ 5 แห่งประกาศตามมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จึงออกคำสั่งไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ห้ามใช้หรือเข้าไปในอาคารหรือสถานที่ดังต่อไปนี้ ตั้งแต่เวลา 14.30 นาฬิกา จนกว่าจะมีคาสั่งเปลี่ยนแปลง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือใช้ในภารกิจของทางราชการ

(1) สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สายสุขุมวิท ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 สถานีห้าแยกลาดพร้าว สถานี หมอชิต สถานีอโศก สถานีอุดมสุข และสถานีบางนา

(2) สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สายสีลม ได้แก่ สถานีช่องนนทรี สถานีสุรศักดิ์ สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่

(3) สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สายสีน้าเงิน ได้แก่ สถานีหัวลาโพง สถานีลุมพินี สถานีสุขุมวิท สถานี พหลโยธิน และสถานีสวนจตุจักร

(4) ทางเชื่อมระหว่างตึกหรือทางเดินระหว่างอาคารสูง (Skywalk) ได้แก่ ทางเชื่อมตั้งแต่บริเวณ รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ห้าแยกลาดพร้าวถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานีพหลโยธิน และทางเชื่อมตั้งแต่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สถานีอโศกถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สุขุมวิท

ทั้งนี้ กอร.ฉ. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติในห้วงเวลานี้เพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในท้องที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 มิใช่ช่วงสถานการณ์ปกติ กอร.ฉ.ขอย้ำว่า การบังคับใช้กฎหมายในช่วงเวลานี้ กับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามกฎหมายเฉพาะดังกล่าวข้างต้น ซึ่งไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ในอันที่จะก่อให้เกิดความร้ายแรงใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน กอร.ฉ. ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต่อไป การปฏิบัติการของตำรวจดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมายเป็นไปตามหลักสากลตามยุทธวิธีที่ทั่วโลกยอมรับ โดยมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน