พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม 21 คน ที่ถูกจับกุมวานนี้ ว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดี 10 ข้อหา และขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแยกส่งศาลอาญา รัชดา 1 ราย ศาลแขวงดุสิต 19 ราย และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อีก 1 ราย สาเหตุสำคัญที่ตำรวจต้องเข้าจับกุมผู้ชุมนุม เนื่องจากมีการตั้งวางสิ่งของ เต็นท์ ซึ่งบดบังการมองเห็น และมีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งออกมากีดขวางผิวการจราจร ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นได้สั่งให้ออกจากพื้นที่แล้ว แต่ผู้ชุมนุมไม่ทำตาม จึงต้องดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย
ส่วนเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกผู้ชุมนุมฉีดสเปรย์และขว้างแก้วน้ำใส่นั้น ทราบว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และให้ยึดถืออุดมคติที่ว่า อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการรองรับความรุนแรงนั้น ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แตกแยกทางความคิดได้ แต่อย่าทะเลาะกัน ซึ่งตำรวจจะมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกันให้กับผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่ม ทั้งนี้ หากการชุมนุมสิ้นสุดลง ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ที่กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายต้นไม้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น เบื้องต้นหากจะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ทางกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดผู้ชุมนุมต่อไป ส่วนการชุมนุมดังกล่าวจะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ขณะนี้ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาข้อมูล แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับบุคคลกลุ่มใด