วันนี้ (8 ต.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง สายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน)
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีทอง จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ในการพิจารณาว่าผลประกอบการเป็นอย่างไร และปริมาณผู้โดยสารเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ หากพบว่าเป็นไปในทิศทางบวก ก็มีแผนจะก่อสร้างในระยะที่ 2 ต่อไปอีก 1 สถานี ได้แก่ สถานีประชาธิปก วงเงินก่อสร้างประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสถานีที่ 4 และเป็นสถานีสุดท้ายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง โดยจะอยู่ถัดจากสถานีคลองสาน
อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีทอง ถือเป็น
ของขวัญปีใหม่ให้ชาวกรุงเทพฯ โดยเฉพาะประชาชนในย่านฝั่งธนฯ โดยรถไฟฟ้าสายสีทองจะเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีกรุงธนบุรี และเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงในอนาคต รวมทั้งยังเชื่อมต่อกับการให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังกล่าวถึงการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย สายเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ไปจนถึงสถานีคูคต ว่า เตรียมพร้อมเปิดให้บริการต้นเดือนธันวาคมนี้ เบื้องต้นคงให้บริการฟรีไปก่อนจนกว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยเป็นการต่อสัญญาสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ อีก 30 ปี แลกกับภาระหนี้ของกรุงเทพมหานคร รวมประมาณ 1 แสนล้านบาท รวมทั้งกำหนดอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในเดือนตุลาคมนี้ และหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ก็จะเริ่มเก็บค่าโดยสารสายสีเขียวไม่เกิน 65 บาท ทันที