พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'ผู้ว่าฯ อัศวิน' ระบุว่า ช่วงนี้ฝนตกต่อเนื่องและหนักมาก ต้องยอมรับว่า พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากจริงๆ โดยเฉพาะบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำ เป็นแอ่ง และติดคลอง ซึ่งในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาแจ้งเตือนอีกว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากอีกครั้ง กทม.จึงได้เรียกประชุม 50 สำนักงานเขต เพื่อกำชับการปฏิบัติทั้งด้านการป้องกันและรับมือให้ดีที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีเสียงต่อว่าถึงการทำงานของ กทม. ซึ่งผมไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ น้อมรับฟังและจะเร่งแก้ไขปัญหาในทุกจุด แม้จะไม่ใช่พื้นที่ในความรับผิดชอบของ กทม.ก็ตาม แต่ กทม.ไม่เคยนิ่งนอนใจต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ของเราทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าฝนจะตกดึกดื่นแค่ไหนต้องออกไปดูแลพื้นที่ และเรามีการพัฒนาระบบระบายน้ำในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง เช่น แก้มลิงใต้ดิน หรือ water bank ที่เปิดใช้งานแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณวงเวียนบางเขน และปากซอยสุทธิพร 2 ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้น่าพอใจ ส่วนที่กำลังก่อสร้างอยู่อีก 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณใต้สะพานทางแยกต่างระดับถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนกรุงเทพกรีฑา และใต้สะพานข้ามแยกรัชดาภิเษกตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานได้ราวๆ กลางปี 64 ก่อนฤดูฝนหน้าครับ
นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างทางลัดน้ำใต้ดิน (pipe jacking) และอุโมงค์ระบายน้ำทั้งที่เปิดใช้แล้วเต็มศักยภาพ และที่กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม เช่น อุโมงค์บึงหนองบอน ที่จะแล้วเสร็จปลายปี 2564 เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังย่านบางนา พระโขนง สวนหลวง ประเวศ อีกด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงต่างๆ ได้มีการลอกท่อโดยจ้างเหมาเอกชนและเจ้าหน้าที่ของ กทม.เอง ไม่ได้จ้างกรมราชทัณฑ์เหมือนทุกครั้งด้วยติดขัดด้านข้อกฎหมาย โดยปี 63 กทม.ได้ลอกท่อกว่า 3,300 กิโลเมตร ครบตามแผนงาน 100% ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในแผนลอกท่อของปีนี้ จะดำเนินการในปีหน้าสลับหมุนเวียนไป เพราะท่อในพื้นที่ กทม.มีความยาวถึง 6,200 กิโลเมตร แต่หากประชาชนร้องเข้ามา เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบและดำเนินการให้ รวมไปถึงในช่วงที่ฝนตก เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บขยะหน้าตะแกรง หน้าสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และอุโมงค์ระบายน้ำมาตลอด เพื่อป้องกันขยะกีดขวางทางน้ำ รวมไปถึงเก็บขยะชิ้นใหญ่ทุกสัปดาห์ เพื่อลดและป้องกันการลักลอบทิ้งขยะชิ้นใหญ่ลงคลองกีดขวางทางน้ำเช่นกัน
แม้ปัญหาน้ำท่วมจะเกิดมาจากหลายปัจจัย กทม.จะเดินหน้าทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน