พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า เหตุผลที่ผมยังไม่ระดมพล
1.รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังนำพาประเทศชาติไปได้ดี และจะมีความเจริญก้าวหน้าในอนาคตอันใกล้ ทั้งยังเป็นพื้นฐานความเจริญก้าวหน้าของชาติในระยะยาว ดังนั้นหากผมปลุกระดมจะเกิดสถานการณ์เผชิญหน้าและเกิดมิคสัญญี ฆ่าล้างกันทันที ประเทศชาติจะเสียหายและประเทศจะพ่ายแพ้ดังที่พระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้เมื่อ พ.ค.35
2.สถานการณ์การชุมนุมม็อบล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จะแสดงตัวตน ธาตุแท้ออกมาเรื่อยๆโดยไม่ต้องสืบหาอีกแล้ว ประชาชนได้เห็นตัวตนชัดเจน ทั้งแกนนำ พรรคการเมือง นักการเมือง กลุ่มทุนผู้สนับสนุนทุนและทรัพย์ ภาครัฐสามารถจัดการได้ด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ถึงแม้จะไม่รวดเร็วทันใจพสกนิกรผู้จงรักภักดีก็ตาม แต่จะเป็นการจัดการที่สถาวรมั่นคงโดยประเทศชาติได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะผลกระทบจากการแทรกแซงจากภายนอกประเทศที่ต้องการแทรกแซงไทยหากเกิดสถานการณ์มิคสัญญีในไทย
3. สถานการณ์จากนี้ ขบวนการสามานย์นี้จะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ หากยังไม่เกิดสถานการณ์เผชิญหน้า ขบวนการเหล่านี้ก็จะแสดงความต่ำทรามสามานย์ให้เป็นที่ประจักษ์ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์และภาครัฐไม่เคยคุกคามประชาชนดังข้อกล่าวหาให้ร้ายบิดเบือนจากขบวนการอันประกอบด้วยผู้บงการ แกนนำ พรรคการเมือง นักการเมือง และแนวร่วม การคุกคามพระมหากษัตริย์ต่างหากที่ปรากฎให้เห็นจนเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว พรรคการเมืองและนักการเมืองที่สนับสนุนขบวนการสามานย์จะเริ่มทะยอยถอนตัว รักษาระยะห่างกับแกนนำมากขึ้นเป็นลำดับ ขบวนการสามานย์จะเริ่มขาดความเป็นเอกภาพ สถานการณ์ในเดือน ต.ค.63 จะสามานย์ยิ่งกว่า 19 ก.ย.63 นี้ แต่หากไม่เกิดการเผชิญหน้าแล้ว สถานการณ์นับจากนี้ก็เป็นสถานการณ์ของม็อบคนบ้า ที่ผมขอเรียกว่า "ม็อบสามสลึง"พสกนิกรผู้จงรักภักดีต้องเตือนสติตนเองว่า "อย่าไปทะเลาะ อย่าไปตี อย่าไปทำร้ายคนบ้า"ดูสารรูปแกนนำก็พอวิเคราะห์ได้ว่าเป็นกลุ่มคนมีปัญหาทางบ้านหรือทางสังคม มีปมด้อย ต้องการให้สังคมยอมรับเท่านั้น