สำนักงานศาลรัฐธรมนูญ ออกเอกสารข่าววันนี้ (16 ก.ย.) แจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) และมาตรา ๙๖ (๒) หรือไม่
จากผลการพิจรณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง มีมติให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ถูกร้อง มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐ด (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) และมาตรา ๙๖ (๒) เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๓ ผู้ถูกร้องต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก ๒ ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดสิบปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ผู้ร้องจึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสี่ ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง
ศาลรัฐธรรมนูญจึงรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยและแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
สำหรับคำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสองนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏชัดเจนว่า ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ถูกร้อง ๒ ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดสิบปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา กรณีปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง นายเทพไท เสนพงศ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
จากผลการพิจรณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง มีมติให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ถูกร้อง มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๐ด (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) และมาตรา ๙๖ (๒) เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๓ ผู้ถูกร้องต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก ๒ ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดสิบปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ผู้ร้องจึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสี่ ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสี่ ประกอบวรรคหนึ่ง
ศาลรัฐธรรมนูญจึงรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยและแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
สำหรับคำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคสองนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏชัดเจนว่า ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ถูกร้อง ๒ ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องมีกำหนดสิบปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา กรณีปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง นายเทพไท เสนพงศ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย