xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปลอม!! ไม่จ่ายค่าปรับ ชำระภาษีรถประจำปีไม่ได้ เริ่ม 1 ต.ค. 63

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


         
         
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความว่า ผู้ขับขี่ที่ถูกออกใบสั่ง แล้วไม่ชำระค่าปรับ จะไม่ได้ต่อทะเบียนรถ หรือ ไม่สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ เริ่ม 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไปนั้น ทางกรมการขนส่งทางบกได้ชี้แจงว่า ข้อมูลข้างต้นไม่เป็นความจริง ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคันที่มีใบสั่งตามกฎหมายจราจร แต่ยังไม่ชำระค่าปรับ กรมการขนส่งฯ ได้อำนวยความสะดวกให้สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ แต่จะได้รับเอกสารหลักฐานแสดงการเสียภาษีประจำปีชั่วคราว ซึ่งมีอายุ 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้เท่านั้น ซึ่งหากชำระค่าปรับแล้วสามารถนำหลักฐานใบเสร็จการชำระค่าปรับมาแสดง เพื่อรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปีฉบับจริงได้ในภายหลัง

ทั้งนี้ การเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งจราจร (PTM) ระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้อำนาจ กรมการขนส่งทางบกรับชำระค่าปรับที่ค้างชำระใบสั่งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมาชำระภาษีรถประจำปี อยู่ระหว่างการทดสอบระบบปฏิบัติงานต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ระบบการทำงานมีความเสถียรและสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด อยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายบางส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และร่วมกันพิจารณากำหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติให้เจ้าของรถได้รับความสะดวก และมีความชัดเจนในการชำระค่าปรับที่ค้างชำระ และชำระภาษีรถประจำปี ซึ่งเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถประจำปี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ

 โดยในระหว่างที่ยังมีการหารือร่วมกันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกนั้น ประชาชนผู้ใช้รถทั่วไปสามารถดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ อาทิ ชำระภาษีรถประจำปีแบบ One Stop Service ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วไทย, “เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.thเคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นต้น

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือโทร. 02 2718888