น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จังหวัดระยอง มีมติอนุมัติโครงการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย ปีการผลิต 2563 เพื่อดูแลชาวสวนลำไยจำนวน 2 แสนครัวเรือน ภายใต้กรอบวงเงิน 3,400 ล้านบาท โดยแนวทางการช่วยเหลือจะใช้เงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2563 โดยจะจ่ายเงินให้กับเกษตรกรโดยตรง เกษตรกรผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นชาวสวนที่ขึ้นทะเบียนปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ภายในวันที่ 15 กันยายน 2563
การอนุมัติครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ และการระบาดของโควิด-19 จนทำให้ไม่สามารถส่งออกได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้เห็นชอบขยายระยะเวลาโครงการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดโครงการกันยายน 2563 เป็นสิ้นสุดธันวาคม 2563
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติโครงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เมืองนวัตกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และระบบอัจฉริยะ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอ โดยมี สวทช.เป็นผู้รับผิดชอบ มีระยะเวลา 5 ปี ระหว่างพ.ศ.2564-2568 แนวทางสำคัญของโครงการนี้คือเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม โดยใช้การทำงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์โครงการ EEC ผสมผสานกับแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 และผลที่คาดจะได้รับคือการพัฒนากำลังคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรมอัจฉริยะ พร้อมให้บริการแก่ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยต่างๆ รวมถึงเป็นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม การผลิตและบริการ ตลอดจนขยายการวิจัยพัฒนาสู่การลงทุนในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศ ส่วนเป้าหมายระยะยาว ใน 10 ปี คาดว่าจะเกิดรายได้จากการพึ่งพาตนเอง และเกิดระบบนิเวศพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน คิดเป็นมูลค่าได้ประมาณ 2,300 ล้านบาท