พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 โดยพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการ และฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งการให้ข่าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง จากคลิปเสียงสนทนายิงรถ”บิ๊กโจ๊ก” ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน จึงเป็นเหตุให้มีคำสั่งสำรองราชการตามมา ซึ่งเป็นไปตามกฎ ก.ตร. พ.ศ.2548 ข้อ 3 (1) ที่ระบุว่า ข้าราชการตำรวจเมื่อถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ต้องสำรองราชการ แต่ยังคงได้รับเงินเดือนปกติ และสามารถต่อสู้ข้อกล่าวหาทั้งวินัยและอาญาได้ ทั้งนี้ หากเป็นตำรวจชั้นประทวนถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จะถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้งสิ้น
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า เมื่อ พล.ต.อ.วิระชัย ถูกสำรองราชการ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็จะว่างลง สามารถแต่งตั้งคนใหม่แทนที่ได้ คาดว่าจะมีการแต่งตั้งแทนตำแหน่ง พล.ต.อ.วิระชัย ในวาระการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจประจำปีนี้ และหากในอนาคตผลการตรวจสอบทางวินัยพบว่า ไม่มีความผิด ก็สามารถขอกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งในระดับเดิม ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งใหม่เฉพาะตัวบุคคลก็ได้
