น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินฝากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 340,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 2.4 มียอดเงินฝากคงค้าง 14.35 ล้านล้านบาท หากเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 เงินฝากเติบโตสูงถึงร้อยละ 12 สูงสุดในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากยังมีความกังวลต่อความเสี่ยงที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ประชาชนรายย่อยและภาคธุรกิจเลือกที่จะเก็บเงินสดหรือเก็บสภาพคล่องไว้ก่อน และส่วนหนึ่งขายสินทรัพย์เสี่ยงมาเก็บเป็นเงินไว้ในบัญชีเงินฝาก ซึ่งถือว่าปลอดภัยที่สุดแม้ดอกเบี้ยจะต่ำ
สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะคงเติบโตต่อเนื่อง แต่อาจชะลอน้อยลงบ้าง เนื่องจากเมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย และเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น กิจกรรมกิจการต่างๆ เริ่มดำเนินการได้ ทำให้ภาคธุรกิจจะนำเงินออกมาลงทุนมากขึ้น และประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น คาดว่าทั้งปีนี้เงินฝากจะเติบโตร้อยละ 9-12 เมื่อเทียบกับปีก่อน และจะมียอดคงค้างสิ้นปีนี้ที่ 14.6 ล้านล้านบาท