นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า ตนพอใจการทำหน้าที่ของ ส.ส.ของพรรคฯ ที่ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ นำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วน รอบด้าน แบบเจาะลึกอย่างแท้จริง โดยเน้นการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ มีข้อเสนอแนะที่มีคุณค่าในการนำไปใช้ปรับปรุงการทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ชี้ให้เห็นถึงการจัดทำงบครั้งนี้ว่า ยังเป็นการทำงบแบบปกติเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ประเทศมีวิกฤตจากโควิด-19 มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก แต่การจัดทำงบยังไม่ตอบโจทย์เพื่อแก้วิกฤตเท่าที่ควร รวมถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ก็ไม่มีความชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีการสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงของธุรกิจการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิกฤตครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวรายเล็ก รายน้อย ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่าจะกลับมาทำธุรกิจเป็นปกติได้เมื่อใด รัฐจึงควรจัดทำงบเพื่อรองรับวิกฤตโควิด-19 ที่กระทบธุรกิจท่องเที่ยวให้เหมาะสมขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นว่าการจัดงบครั้งนี้ไม่คำนึงถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ที่ควรใส่ใจอย่างมีนัยสำคัญว่าภาครัฐให้ความสนใจที่จะจัดสรรงบให้เข้าไปมีส่วนลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้สะท้อนถึงปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ละเลยความเดือดร้อนของชาวบ้าน เช่น เรียกร้องให้มีถนนมอเตอร์เวย์เพื่อเป็นถนนทางเลือกให้คนภาคใต้เพิ่มขึ้น รวมถึงเรียกร้องให้จัดสรรงบเพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำทั้งระบบ ให้เกิดความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำแบบยั่งยืน โดยสิ่งที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เน้นย้ำมากที่สุดในการพิจารณางบประมาณปี 2564 ตลอด 3 วันนี้ คือ การใช้จ่ายงบอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง