วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของ ส.ส. 54 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ( 7 ) ประกอบมาตรา 184 วรรค 1 ( 2 ) และ วรรค 3 หรือไม่ จากกรณีภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส ถือครองหุ้นในบริษัท ตลาดคลองเตย (๒๕๕๑) จำกัด โดยบริษัทดังกล่าวได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า การทำสัญญาดังกล่าวไม่มีลักษณะเป็นการเข้าทำสัญญาอันเป็นการผูกขาดตัดตอน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรค 1 ( 2 ) และวรรค 3 มูลกรณีจึงไม่ต้องด้วยเหตุตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ( 7 ) ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามมาตรา 82 ได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยถูกศาลออสเตรเลียตัดสินว่ามีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดจําคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกับประเทศไทยเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ไว้พิจารณา และขณะนี้อยู่ระหว่างให้เวลา ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ส่งความเห็นของ ส.ส. 51 คน ขอให้วินิจฉัยว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยถูกศาลออสเตรเลียตัดสินว่ามีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดจําคุก 6 ปี แต่จำคุก 4 ปี ก่อนถูกเนรเทศกับประเทศไทยเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) ไว้พิจารณา และขณะนี้อยู่ระหว่างให้เวลา ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง