พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) พ.ศ.2548 ว่า ที่ประชุมมีมติ ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เนื่องจากแม้วันนี้สถานการณ์การควบคุมโควิด-19 ดีขึ้น แต่สถาการณ์ทั่วโลกยังน่าเป็นห่วงและน่ากลัวอยู่ แม้ไทยประสบความสำเร็จแต่ต้องระมัดระวังการผ่อนคลายเป็นระยะ เพราะไม่ต้องการให้แพร่ระบาดระลอก 2 ในไทย ที่จะเสียหายหนักกว่าเดิม ที่ประชุมจึงเห็นพ้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ให้ครอบคลุมถึงเดือนมิถุนายน โดยจะนำเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พรุ่งนี้ ถ้าเห็นด้วยจะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ในห้วงเดือนมิถุนายน จะมีมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 3 และระยะที่ 4 อย่างเป็นขั้นตอนและทำด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า วัตถุประสงค์หลักในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเป็นเหตุผลด้านสาธารณสุข ไม่ได้ใช้ควบคุมการเมือง แม้จะมีผลกระทบบ้าง
ส่วนการลดเวลาเคอร์ฟิว จะพิจารณาในการประชุม สมช. วันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งอาจจะลดเวลาหรือคงเดิมก็ได้ เช่นเดียวกับการเปิดเทอม ยังเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม เว้นแต่กระทรวงศึกษาธิการจะพิจารณาตามความเหมาะสมจากผลการผ่อนปรน ระยะ 2-3 ต่อไป
