นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ตามที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการธนาคารฯ โดยนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคารฯ ได้มีนโยบายให้ ธอส. แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ด้วยการจัดทำโครงการ "ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ" ผ่าน 7 มาตรการ โดยเริ่มเปิดให้ลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหา COVID-19 ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการ ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 เวลา 17.00 น. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดให้ลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 2-6 พบว่า มีจำนวนผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์แล้วทั้งสิ้น 417,487 ราย วงเงินกู้ 415,472 ล้านบาท โดยมาตรการที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนสูงที่สุด คือ มาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งธนาคารฯ จะยกดอกเบี้ยที่พักชำระให้ลูกค้าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลากู้ตามสัญญาให้แก่ลูกค้าที่ยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลงของมาตรการ มีลูกค้าลงทะเบียนจำนวน 225,452 ราย วงเงินกู้ 202,616 ล้านบาท และเพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการต่างๆ ของธนาคารฯ ไปแล้ว แต่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในด้านอื่น ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามการผ่อนชำระของมาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ได้ คณะกรรมการธนาคารฯ จึงได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารจัดทำมาตรการที่ 8 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลา 3 เดือน สำหรับลูกค้าทุกวัตถุประสงค์การกู้ที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่เคยได้รับสิทธิ์ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนหรือลดอัตราดอกเบี้ยตามระยะเวลาและเงื่อนไขของแต่ละมาตรการไปแล้ว สามารถเปลี่ยนมาลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 8 เพื่อพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาการพักชำระของมาตรการเดิม เมื่อครบระยะเวลาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามมาตรการที่ 8 ให้ผ่อนชำระเงินงวดตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ปกติ ส่วนดอกเบี้ยที่ให้พักชำระไว้ ลูกค้าสามารถทยอยผ่อนชำระให้หมดได้ภายในระยะเวลาของสัญญาเงินกู้
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การเปิดให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้มาตรการที่ 8 แทนได้นั้น ถือเป็นการช่วยให้ลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จาการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่นที่จำเป็น ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการผ่อนชำระของมาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ได้ ให้สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในสิ่งที่มีความจำเป็นก่อน อาทิ กรณีลูกค้าที่เคยใช้มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี หากกู้ 1 ล้านบาท เดิมให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของมาตรการ จะมีเงินงวดจำนวน 3,400 บาทต่อเดือน แต่เมื่อเข้ามาตรการที่ 8 แล้วจะสามารถพักชำระเงินกู้ได้เป็นเวลานาน 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาพักชำระของมาตรการเดิม โดยไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระเงินกู้อีกด้วย
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ไปแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 8 ผ่าน Application : GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 28 มิถุนายน 2563 สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0-2645-9000 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การเปิดให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้มาตรการที่ 8 แทนได้นั้น ถือเป็นการช่วยให้ลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จาการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่นที่จำเป็น ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการผ่อนชำระของมาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ได้ ให้สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายในสิ่งที่มีความจำเป็นก่อน อาทิ กรณีลูกค้าที่เคยใช้มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี หากกู้ 1 ล้านบาท เดิมให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของมาตรการ จะมีเงินงวดจำนวน 3,400 บาทต่อเดือน แต่เมื่อเข้ามาตรการที่ 8 แล้วจะสามารถพักชำระเงินกู้ได้เป็นเวลานาน 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาพักชำระของมาตรการเดิม โดยไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระเงินกู้อีกด้วย
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ไปแล้ว สามารถลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 8 ผ่าน Application : GHB ALL ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 28 มิถุนายน 2563 สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0-2645-9000 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th