เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ประกาศแนวทางการจัดทำการบินรับส่งบุคคลกลับไทย (repatriation flight) โดยมีรายละเอียดดังนี้
ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้มีประกาศฉบับที่ 4 ห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 เวลา 23.59 น. (เวลาประเทศไทย) โดยที่ประกาศข้างต้นของ กพท. ไม่รวมถึงอากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (repatriation flight) และในขณะนี้ มีคนไทยในสหรัฐฯ ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับแล้วกว่า 2,700 คน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก จึงได้ประสานขออนุญาตทำการบินรับส่งบุคคลคนไทยในสหรัฐฯ กลับไทยประมาณ 580 คน รายละเอียด ดังนี้
วันที่ 10 พ.ค. 2563 - 80 คน
วันที่ 12 พ.ค. 2563 - 150 คน
วันที่ 16 พ.ค. 2563 - 200 คน
วันที่ 19 พ.ค. 2563 - 150 คน
ทั้งนี้ การกำหนดวันคือวันที่เดินทางถึงประเทศไทยและจำนวนคนที่จะได้รับการจัดสรรขึ้นอยู่กับความจำเป็นของคนไทยในประเทศอื่น ๆ และโควต้ารวม 200 คนต่อวันทั่วโลกด้วย
ส่วนขั้นตอนและแนวทางการดำเนินการมีรายละเอียด ดังนี้
1.) เส้นทางการเดินทาง จากการประสานสายการบินต่าง ๆ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการดังกล่าว โดยในชั้นนี้ทราบว่า สายการบิน Korean Air (KE) มีความพร้อมในการทำการบินไปยังประเทศไทยโดยเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโซล เกาหลีใต้ โดยสายการบินคิดราคาค่าบัตรโดยสารประมาณ 1,800 – 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว และ 2,100 – 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเดินทางไป-กลับ ขึ้นอยู่กับท่าอากาศยานที่ผู้โดยสารแต่ละท่านใช้ในการออกเดินทางจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ผู้ที่ถือบัตรโดยสารของสายการบิน KE สามารถเปลี่ยนวันเวลาเดินทางให้สอดคล้องกับโควต้าที่ได้รับมอบหมายได้ โดยจะต้องดำเนินการจองบัตรโดยสารกับสายการบิน KE โดยตรง และอาจมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบัตรโดยสายตามที่สายการบินกำหนด ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่ง จะแจ้งแนวปฏิบัติที่ชัดเจนอีกครั้งเมื่อได้รับข้อมูลจากสายการบิน KE โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังตรวจสอบความพร้อมของสายการบินอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
2.) การจัดสรรโควต้าการเดินทาง สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่งจะร่วมกันพิจารณา โดยผู้ที่เคยได้รับหนังสือรับรองในการเดินทางและแสดงความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยกับสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่ง เมื่อเดือน มี.ค. - 2 เม.ย. 2563 จะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับต้น
สำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชน (อายุต่ำกว่า 18 ปี) จะได้รับการพิจารณาลำดับต่อมา รวมถึงผู้มีความจำเป็นด้านมนุษยธรรม อาทิ ปัญหาสุขภาพร้ายแรง ปัญหาสภาพความเป็นอยู่ ปัญหาด้านการต่ออายุวีซ่า เป็นต้น
3.) ในช่วงสัปดาห์นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่ง จะเริ่มจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรโควต้าในข้อ 2 โดยจะสอบถามความพร้อมในการเดินทางของผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ทางอีเมลหรือโทรศัพท์
4.) ขอให้ท่านติดตามข่าวสารจากทางเว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 3 แห่งอย่างใกล้ชิด สำหรับท่านที่ตกค้างและยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ และยังไม่ได้ลงทะเบียน ขอให้ลงทะเบียนแผนการเดินทางและรับข้อมูลข่าวสารที่ www.thaiembdc.org/emergencyreg(เว็บไซต์กลางทั้งสหรัฐฯ) ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม ขอให้ท่านติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ท่านพำนักอยู่ ดังนี้
-สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน www.thaiembdc.org / consular@thaiembdc.org / Hotline (202) 999 7690 (202) 431 088 (202) 465 0938 (202) 431 7766
-สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส www.thaiconsulatela.org/ consular@thaiconsulatela.org / Hotline (323) 580 4222 (323) 552 3227 (747) 334 4558 (818) 292 7591
- สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก www.thaiconsulatechicago.org/ info@thaiconsulatechicago.org / Hotline (773) 294 5933
-สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก www.thaicgny.com / info@thaicgny.com / Hotline (646) 842 0864