ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแจ้งว่า ตามที่มีการพาดหัวบทความ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ผสมน้ำยาบ้วนปากกับน้ำส้มสายชู จะทำให้ตัวขาวขึ้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการพาดหัวบทความว่า ผสมน้ำยาบ้วนปากกับน้ำส้มสายชู จะทำให้ตัวขาวขึ้น ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า เป็นการพาดหัวข้อที่เกินจริง รวมถึงไม่ตรงกับเนื้อหาในบทความ
โดยเนื้อหาในบทความเป็นการบอกวิธีแก้ปัญหาส้นเท้าแตก โดยการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำยาบ้วนปาก และน้ำส้มสายชู ซึ่งตามคำแนะนำนั้นเป็นการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ทั้งนี้ มีข้อควรระมัดระวังการใช้ในปริมาณที่เข้มข้นสูง หรือสัมผัสบริเวณที่มีบาดแผลหรือที่มีการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ต่อผิวหนังได้
ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ www.nutrition.anamai.moph.go.th หรือ โทร 02 96877619
จากกรณีที่มีการพาดหัวบทความว่า ผสมน้ำยาบ้วนปากกับน้ำส้มสายชู จะทำให้ตัวขาวขึ้น ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า เป็นการพาดหัวข้อที่เกินจริง รวมถึงไม่ตรงกับเนื้อหาในบทความ
โดยเนื้อหาในบทความเป็นการบอกวิธีแก้ปัญหาส้นเท้าแตก โดยการแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำยาบ้วนปาก และน้ำส้มสายชู ซึ่งตามคำแนะนำนั้นเป็นการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ทั้งนี้ มีข้อควรระมัดระวังการใช้ในปริมาณที่เข้มข้นสูง หรือสัมผัสบริเวณที่มีบาดแผลหรือที่มีการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ต่อผิวหนังได้
ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ www.nutrition.anamai.moph.go.th หรือ โทร 02 96877619