xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง-พระราชินี ทรงประกอบพิธีบวงสรวงพระบรมรูป ร.9 โปรดเกล้าฯ ประดิษฐานปราสาทพระเทพบิดร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วันนี้ (6 เม.ย.) เวลา 18.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ลงยังหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพื่อทรงประกอบพิธีบวงสรวงพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อไปประกอบพิธีประดิษฐาน และสมโภช ที่ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง

จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเคลื่อนริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมรูปจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง โดยใช้เส้นทางถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินใน เลี้ยวขวาเข้าถนนพระลาน และเลี้ยวซ้ายเข้ายังประตูวิเศษไชศรี ขบวนอัญเชิญเทียบยังประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายเป็นพระบรมราชนุสรณ์ เพื่อประดิษฐานบนปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระบรมรูปมีความสูงจากพระบาทถึงพระเศียร ขนาด 172 เซนติเมตร ความสูงฐานพระบรมรูปขนาด 7 เซนติเมตร ความสูงรวมขนาด 179 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร น้ำหนักรวม 156 กิโลเมตร หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ ซึ่งเป็นวัสดุผสมระหว่างทองแดงกับโลหะผสมอื่น ๆ อาจมีมากกว่า1 ชนิดก็ได้ โดยปกติจะผสมสังกะสีเล็กน้อยลงไปด้วยเสมอ และมีทองแดงอยู่ร้อยละ 60-98 ที่เหลือเป็นโลหะผสมอื่น ๆ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯมาทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ที่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง

สำหรับปราสาทพระเทพบิดร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2398 เดิมชื่อว่า พุทธปรางค์ปราสาท เมื่อแรกนั้นมีพระราชประสงค์จะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาไว้ แต่เมื่อสร้างเสร็จเห็นว่าคับแคบไม่เหมาะแก่การพระราชพิธี จึงมิได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานดังพระราชดำริในปี พ.ศ. 2446 ได้มีการซ่อมแซมแล้วให้เปลี่ยนนามเป็น ปราสาทพระเทพบิดร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมรูปพระบูรพกษัตริย์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทั้ง 5 องค์มาไว้ทั้งมีพระบรมราชโองการให้มีการถวายบังคมพระบรมรูป เป็นประจำทุกปีในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งทรงกำหนดให้เป็นวันจักรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2461 เป็นต้นมา จากนั้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการถวายบังคมพระบรมรูป เป็นประจำทุกปีในวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันฉัตรมงคล วันที่ 13-15 เมษายน เนื่องในวันสงกรานต์ หรือพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการถวายบังคมในโอกาสวันสำคัญต่าง ๆ ในบางปี หรือทุกปี เช่น วันปิยมหาราช วันที่ 23 ตุลาคม ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ปัจจุบันได้มีการประดิษฐานพระบรมรูปเพิ่มตามการเปลี่ยนรัชสมัย จนถึงรัชกาลที่ 8