นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งทางท่าอากาศยาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงคมนาคม เฝ้าติดตามสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย โดยเฉพาะที่มาจาก 4 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่เดินทางเข้ามาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้มีการประสานให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และกรอกข้อมูล รวมถึงการถ่ายรูปพาสปอร์ตและบอร์ดดิงพาส ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ที่กรมควบคุมโรค ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จะมีการให้ข้อมูลเป็นวิดีโอสั้นๆ ตั้งแต่บนเครื่องบินเพื่อที่จะไม่ให้เสียเวลา
ส่วนกรณีผู้ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วันนั้น นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ตนจะประสานงานกับ กสทช.เพื่อขอใช้ซิมการ์ดฟรี 14 วัน ซึ่งจะต้องรอเพราะไม่แน่ใจว่าจะครอบคลุมได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้ที่โดนกักตัวสามารถติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้ตลอด 14 วัน
สำหรับแอปพลิเคชัน AOT ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกเป็น 2 ระบบ ส่วนแรกคือกลุ่มบุคคลทั่วไป ส่วนที่สองคือกลุ่มบุคคลที่ต้องกักตัว 14 วัน โดยกลุ่มผู้ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านจะต้องกรอกข้อมูลอย่างละเอียดมากกว่ากลุ่มอื่น เพื่อใช้แยกและติดตามบุคคลที่ถูกกักตัวตามภูมิลำเนา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามได้จากสัญญาณติดตามตัว เพื่อที่จะทราบว่าบุคคลเหล่านั้นยังกักตัวอยู่ที่บ้านหรือไม่ รวมถึงจะได้ทราบว่าบุคคลกลุ่มนี้เดินทางไปที่ใดบ้าง แอปพลิเคชันนี้เป็นการทำงานประสานกัน ระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องติดตามกลุ่มคนที่ต้องจากกันตัวอยู่ที่บ้านแบบเรียลไทม์
