เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 : COVID-19) การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา และการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
โดยสาระสำคัญ คือ ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องจัดให้มีหน่วยคัดกรองผู้รับบริการ ที่เข้ามารับบริการในสถานพยาบาล ซึ่งหากคัดกรองแล้วพบอาการและ อาการแสดง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ป่วยดังกล่าวเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เมื่อคัดกรองผู้รับบริการและพบผู้รับบริการที่มีอาการและอาการแสดงให้ถือว่าเข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังเป็นผู้ป่วย ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาล จัดให้มีห้องตรวจโรคแยกกับผู้ป่วย จัดให้มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจจากผู้ป่วย และส่งตัวอย่างส่งตรวจดังกล่าวไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยต้องได้รับการบริการตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษาจนเต็มขีดความสามารถของสถานพยาบาลนั้น หากมีความจำเป็นต้องส่งต่อ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาของผู้ป่วยนั้น
อย่างไรก็ตาม ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลจัดหาทรัพยากรด้านบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์ยานพาหนะให้เพียงพอ และพร้อมต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย ตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล และในกรณีได้รับการประสานความร่วมมือเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วย จากสถานพยาบาลภาครัฐ สถานพยาบาลเอกชน หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องให้ความร่วมมือและจัดให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาล
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/051/T_0002.PDF
โดยสาระสำคัญ คือ ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องจัดให้มีหน่วยคัดกรองผู้รับบริการ ที่เข้ามารับบริการในสถานพยาบาล ซึ่งหากคัดกรองแล้วพบอาการและ อาการแสดง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ป่วยดังกล่าวเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เมื่อคัดกรองผู้รับบริการและพบผู้รับบริการที่มีอาการและอาการแสดงให้ถือว่าเข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังเป็นผู้ป่วย ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาล จัดให้มีห้องตรวจโรคแยกกับผู้ป่วย จัดให้มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจจากผู้ป่วย และส่งตัวอย่างส่งตรวจดังกล่าวไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยต้องได้รับการบริการตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษาจนเต็มขีดความสามารถของสถานพยาบาลนั้น หากมีความจำเป็นต้องส่งต่อ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาของผู้ป่วยนั้น
อย่างไรก็ตาม ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลจัดหาทรัพยากรด้านบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์ยานพาหนะให้เพียงพอ และพร้อมต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย ตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล และในกรณีได้รับการประสานความร่วมมือเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วย จากสถานพยาบาลภาครัฐ สถานพยาบาลเอกชน หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องให้ความร่วมมือและจัดให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยเพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาล
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/051/T_0002.PDF
