ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ประกันสังคมจะจ่ายเงินคืนให้ผู้ประกันตนภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นมีข้อมูลบิดเบือน
สำนักงานประกันสังคมแจ้งว่า ได้ทำการประชาสัมพันธ์การจัดส่งหนังสือแจ้งการคืนเงินให้ผู้ประกันตนที่ทำงานกับนายจ้างหลายราย และส่งเงินเกินตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อแจ้งให้ทราบจำนวนเงินสมทบที่ชำระไว้เกินแล้ว โดยแจ้งให้ผู้ประกันตนที่ต้องการรับเงินส่วนเกินคืนกรอกข้อความและลงนามในคำขอรับเงินคืนพร้อมแนบหลักฐาน รายละเอียดเงินสมทบส่วนที่เกิน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ ที่ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย กรุงไทย ทหารไทย ไทยพาณิชย์ ธนชาต ซีไอเอ็มบีไทย กรุงศรีอยุธยา และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถขอรับเงินคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประทศ หรือส่งคำขอรับเงินคืนทางไปรษณีย์ โดยระบุที่อยู่ซึ่งแจ้งในหนังสือ และให้วงเล็บมุมชองว่า "ขอคืนเงินสมทบ" ถึงสำนักงานประกันสังคมภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งฯ ฉบับดังกล่าว จึงขอให้ผู้ประกันตนตรวจสอบและรักษาสิทธิ์ของตนเองให้ถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบของตนเองได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่จังหวัด สาขา ที่นายจ้างนำส่งเงินสมทบ
ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือโทร. 1506
สำนักงานประกันสังคมแจ้งว่า ได้ทำการประชาสัมพันธ์การจัดส่งหนังสือแจ้งการคืนเงินให้ผู้ประกันตนที่ทำงานกับนายจ้างหลายราย และส่งเงินเกินตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อแจ้งให้ทราบจำนวนเงินสมทบที่ชำระไว้เกินแล้ว โดยแจ้งให้ผู้ประกันตนที่ต้องการรับเงินส่วนเกินคืนกรอกข้อความและลงนามในคำขอรับเงินคืนพร้อมแนบหลักฐาน รายละเอียดเงินสมทบส่วนที่เกิน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ ที่ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย กรุงไทย ทหารไทย ไทยพาณิชย์ ธนชาต ซีไอเอ็มบีไทย กรุงศรีอยุธยา และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถขอรับเงินคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประทศ หรือส่งคำขอรับเงินคืนทางไปรษณีย์ โดยระบุที่อยู่ซึ่งแจ้งในหนังสือ และให้วงเล็บมุมชองว่า "ขอคืนเงินสมทบ" ถึงสำนักงานประกันสังคมภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งฯ ฉบับดังกล่าว จึงขอให้ผู้ประกันตนตรวจสอบและรักษาสิทธิ์ของตนเองให้ถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบของตนเองได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่จังหวัด สาขา ที่นายจ้างนำส่งเงินสมทบ
ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือโทร. 1506
