พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนตั้งข้อสงสัยกระบวนการคลังอาวุธของทหารว่ามีระบบหละหลวมหรือไม่ ว่า เบื้องต้นยังไม่พบลักษณะการดูแลรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยที่ไม่เป็นไปตามระเบียบหรือข้อกำหนดของราชการ จึงมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในภาพรวม โดยเฉพาะสถานที่เก็บอาวุธหรือสิ่งหวงห้ามได้มีระบบการปิดล็อก และจัดให้มีเจ้าหน้าที่เวรยามเฝ้ารักษาการณ์ รวมถึงในช่วงเวลาปกติจะมีระบบการตรวจสอบกำกับดูแลที่เคร่งครัดตามนโยบายผู้บังคับบัญชาที่ได้สั่งการและเน้นย้ำให้อยู่เสมอ แต่ด้วยกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ค่อนข้างมีลักษณะพิเศษเกินกว่าระดับปกติจากที่ไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นกำลังพลที่ปฏิบัติงานในหน่วยดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์อาจมีความคุ้นเคยและไม่คาดว่าจะเข้ามาจู่โจมทำร้ายกันด้วยความรุนแรงถึงขั้นเกิดบาดเจ็บ เสียชีวิต
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ส่วนการจะเข้าถึงอาวุธในคลังได้นั้น ผู้ก่อเหตุต้องใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ รวมถึงต้องใช้อาวุธยิงทำลายเพื่อปลดล็อกกุญแจคลังจึงจะเข้าไปเอาของภายในได้ เชื่อว่าขณะนี้ทางหน่วยคงอยู่ในขั้นดูแลรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ดีที่สุดเป็นลำดับแรก จากนั้นเมื่อสถานการณ์ในส่วนนี้คลี่คลายอาจมีการพิสูจน์ทราบในรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วย โดยเฉพาะสำหรับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามในภาวะปกติกรณีเผชิญเหตุวิกฤต เพื่อนำไปปรับเสริมมาตรการที่ใช้อยู่ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นได้