ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย รศ.นพ. ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการและผู้บริหารศูนย์ศรีพัฒน์ รศ.พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และ อ.นพ.ปรเมษฐ์ วินิจจะกูล หน่วยโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการรักษาผู้ป่วยชาวจีนอายุ 28 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ยืนยันว่าได้ทำการรักษาจนผู้ป่วยพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว จึงจะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล โดยยังมีเพียงรายเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในระหว่างนี้ได้มีมาตรการเฝ้าระวังการติดเชื้อในผู้ป่วยรายอื่นๆ และบุคลากรทางการแพทย์อย่างเข้มข้น จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่พบว่ามีบุคลากรหรือผู้ป่วยรายใดติดเชื้อต่อจากผู้ป่วยรายดังกล่าว และจนถึงวันนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่
ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนผู้มารับบริการนั้น ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้กำหนดให้มีการจำกัดทางเข้า-ออก โดยทุกทางเข้า-ออกจะมีจุดคัดกรองผู้รับบริการ รวมถึงบุคลากร จะต้องผ่านจุด Thermoscan หรือวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หากพบผู้ใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือหายใจหอบเหนื่อย และมีประวัติเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนและต่างประเทศ ภายใน 14 วัน เจ้าหน้าที่จะแยกเพื่อไปรับการตรวจที่ OPD สนามหน้าอาคารนินมานเหมินทร์-ชุติมา ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมโรค
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้มีคำแนะนำให้บุคลากรและบุคคลทั่วไป ในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสต่างๆ โดยได้เน้นย้ำเรื่องการทานอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ และปฏิบัติให้ถูกต้อง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งการแพร่กระจายของเชื้อด้วย โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าทั้งหมด ได้ที่ https://www.facebook.com/medicine.cm/
ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรและประชาชนผู้มารับบริการนั้น ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้กำหนดให้มีการจำกัดทางเข้า-ออก โดยทุกทางเข้า-ออกจะมีจุดคัดกรองผู้รับบริการ รวมถึงบุคลากร จะต้องผ่านจุด Thermoscan หรือวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้งทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หากพบผู้ใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือหายใจหอบเหนื่อย และมีประวัติเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนและต่างประเทศ ภายใน 14 วัน เจ้าหน้าที่จะแยกเพื่อไปรับการตรวจที่ OPD สนามหน้าอาคารนินมานเหมินทร์-ชุติมา ตามแนวทางการป้องกันและควบคุมโรค
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้มีคำแนะนำให้บุคลากรและบุคคลทั่วไป ในการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสต่างๆ โดยได้เน้นย้ำเรื่องการทานอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ และปฏิบัติให้ถูกต้อง รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งการแพร่กระจายของเชื้อด้วย โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าทั้งหมด ได้ที่ https://www.facebook.com/medicine.cm/