“พี่ศรี”แจ้งจับ ผอ.เขตหลักสี่-ผอ.สำนักการโยธา ไม่สั่งผู้ประกอบการหยุดก่อสร้างลดฝุ่น

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3/2563 ที่มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน ได้มีคำสั่งหยุดการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 7 สาย โครงการก่อสร้างถนน การก่อสร้างอาคารสูง ทันทีเริ่มวันที่ 4-6 ก.พ.นี้ เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กลับมามีปัญหา และต่อมาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ผู้ว่าฯ อัศวิน" กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้ค่าฝุ่นสูงจนถึงขั้นวิกฤต โดยสั่งหยุดการก่อสร้างรถไฟฟ้าฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ การก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ 96 แห่ง การก่อสร้างถนนหนทางต่างๆ เป็นเวลา 3 วัน หากสภาพอากาศยังไม่ดีขึ้นก็จะให้หยุดดำเนินการต่อเนื่อง แต่หากสภาพอากาศดีขึ้นก็สามารถดำเนินโครงการได้ตามปกตินั้น แต่ในพื้นที่เขตหลักสี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นอันดับ 2 ของ กทม.จากการรายงานของกรมควบคุมมลพิษเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังมีการก่อสร้างตึก-อาคารสูงกันมากมายทั้งในบริเวณศูนย์ราชการฯ และบริเวณ ถ.เลียบทางรถไฟหรือ ถ.กำแพงเพชร 6 ข้างโรงแรมมิราเคิลแกรนด์ ซึ่งไม่ได้หยุดกิจกรรมการก่อสร้าง เพื่อระงับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ตามคำสั่งหรือนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.แต่อย่างใด

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ จึงได้นำความไปแจ้งความ ณ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีเอาผิด ผอ.เขตหลักสี่ และ ผอ.สำนักการโยธา กทม. ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ปอ.157 เพราะเพิกเฉยหรือปล่อยปละละเลยไม่สั่งให้ผู้ประกอบการก่อสร้างหยุดปฏิบัติงานในระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ.ตามคำสั่งหรือนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. เป็นเหตุให้พื้นที่หลักสี่มีปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ฟุ้งกระจายเกินมาตรฐานและทำให้ประชาชนเจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจจำนวนมากในขณะนี้

ทั้งนี้ ตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการ กทม. 2528 กำหนดอำนาจหน้าที่ของ ผอ.เขตและผอ.สำนักการโยธาไว้ชัดเจนว่า มีอำนาจหน้าที่ตามที่ ผู้ว่าฯ กทม.มอบหมาย และผู้ว่าฯกทม.ก็ได้มีคำสั่งมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องของการตรวจสอบควบคุมอาคาร ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 และข้อบัญญัติ กทม.แล้วด้วย การที่ ผอ.เขต และ ผอ.สำนักการโยธา ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว สงสัยอยู่ว่าคำแถลงของ กทม.เป็นเพียงการสร้างภาพให้ดูดีในการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 หรือไม่