น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ”ระบุว่า ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาและภาคประชาสังคมที่ต้องการให้มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ หลังพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถบังคับใช้กฎหมายแบบเลือกปฎิบัติ และไม่เท่าเทียมกันได้ ระหว่างผู้จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง กับเดินเชียร์ลุง โดยการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อาจเกิดจากความเกรงใจผู้นำรัฐบาลหรือไม่ ที่คุ้นชินกับการใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะควบคู่ไปกับคำสั่ง คสช. เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมือง ทั้งที่ตอนนี้คำสั่งดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่พบว่าตำรวจยังทำงานด้วยวิธีการเดิมๆ จึงเชื่อได้ว่าอาจมีการสั่งการจากผู้มีอำนาจให้ตำรวจสกัดกั้นฝ่ายที่เห็นต่าง โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย ที่เปิดช่องให้มีการเลือกปฏิบัติได้
ล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนว่า ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดวิ่งไล่ลุง พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่รัฐไปคุกคามญาติของคนจัดกิจกรรม ซึ่งต่างจากกลุ่มเดินเชียร์ลุงที่นอกจากจะไม่ต้องขออนุญาตชุมนุมในที่สาธารณะแล้ว เมื่อจัดเสร็จก็ไม่ถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับกลุ่มวิ่งไล่ลุง ทั้งที่มีการประกาศจุดยืนของผู้จัดและมีการชูป้ายข้อความที่สร้างความแตกแยกและเกลียดชังในที่ชุมนุม
ปรากฏการณ์สองมาตรฐานที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าใจกฎหมายไม่ดีพอ หรือ มีการตีความกฎหมายเกินขอบเขตที่กำหนดไว้ จนการบังคับใช้เกิดความสับสน เปิดช่องให้มีการเลือกปฏิบัติ จนกลายเป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชนมากกว่าการส่งเสริมประชาชนให้แสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย
พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า สิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนจะต้องได้รับความคุ้มครอง และเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งความน่าเชื่อถือของตำรวจเองด้วย ดังนั้น จึงเห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติ และสร้างความมั่นใจให้กับคนที่จะไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในครั้งต่อไป