นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า โพลล์ปลายปีบอกอะไรเรา และถามอะไรเรา
พูดถึงโพลล์ที่เราอ่านข่าวกันอยู่บ่อยๆ คนมักรู้สึกตั้งคำถามว่าเชื่อถือได้แค่ไหนบ้าง เอียงข้างหรือเปล่า หรือไม่ก็เป็นฝ่ายรัฐบาลหรือเปล่าบ้าง พอจะพูดได้ว่าโพลล์หลายสำนักมีปัญหาความเป็นวิชาการและความเป็นกลางอยู่
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเสนอความเห็น เพื่อหวังจะให้เกิดการปรับปรุงอะไรหรอกครับ ที่น่าคิดคือถึงแม้โพลล์สำนักต่างๆ ที่มีระดับความน่าเชื่อถือต่างๆ กัน แต่ก็รายงานผลความสนใจของประชาชนได้ตรงกันว่าเป็นเรื่องปากท้อง ค่าครองชีพและปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งก็เป็นความจริงที่ปรากฏทั่วไป อันนี้ทำให้เราไปดูแคลนโพลล์สำนักต่างๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ดูผลโพลล์เรื่องการเมืองก็จะพบความน่าสนใจตรงที่โพลล์หลายสำนักรวมทั้งโพลล์ที่ถูกมองว่ามักจะเชียร์รัฐบาลประยุทธ์ตลอดมาก็ยังสรุปตรงกันว่าคะแนนนิยมนายกฯ และรัฐบาลตกลงมากทีเดียว
โพลล์ทั้งหลายบอกเราว่า ประยุทธ์เป็นที่นิยมมากตอนที่ไม่มีใครมาเปรียบเทียบและไม่ค่อยถูกวิจารณ์ พอมีการวิจารณ์ได้มากขึ้นและมีคนมาให้เปรียบเทียบ ประยุทธ์ก็ตกอันดับลงอย่างฮวบฮาบ
ซึ่งเผอิญไปสอดคล้องกับการตั้งฉายาของผู้สื่อข่าวว่าอิเหนาเมาหมัดที่ทำให้นายกฯงอนไปหลายวัน และถูกซ้ำเติมด้วยวาทะแห่งปีที่ว่า “เบื่อนายกฯ” ที่ดูจะลามไปอย่างรวดเร็วจนเชื่อกันว่าเป็นขาลงของประยุทธ์และรัฐบาลแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งโพลล์ก็ตั้งคำถาม หรือทำให้เกิดเป็นปริศนาขึ้นเมื่อปรากฏผลออกมาว่านักการเมืองคนใดเป็นที่นิยมมากที่สุด ขณะที่นักการเมืองคนนั้นถูกห้ามไม่ให้เข้าสภาจนกระทั่งถูกทำให้พ้นจากความเป็น ส.ส.ไปแล้ว
ส่วนพรรคการเมืองที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งก็กำลังอยู่ในกระบวนการยุบพรรค สื่อมวลชนเสนอข่าวผลโพลล์เรื่องนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ กันไป บ้างเสนอผลโพลล์ไปตามข้อเท็จจริง บ้างไปเอาความเห็นตรงข้ามจากใครก็ไม่รู้มาพาดหัวแทน
แต่ที่ทำให้เกิดคำถามตามมามากอีกอย่างหนึ่งก็คือความพยายามเคลื่อนไหวเพื่อจุดประเด็น “วายร้ายตัวใหม่” ซึ่งพอเดากันได้ว่ากำลังพุ่งเป้าไปที่ไหน
แต่ถ้าจับเรื่องต่างๆ มาเชื่อมโยงกันแล้วก็จะเกิดคำถามว่า เอ๊ะ ทำไมวายร้ายมีคนสนับสนุนเยอะจัง สังคมไทยมักจะชอบพระเอก ทำไมวันนี้คนจำนวนมากกลายเป็นชอบวายร้ายไปได้ ไม่รู้ไปเอาผลโพลล์ที่ไหนมา
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเสนอความเห็น เพื่อหวังจะให้เกิดการปรับปรุงอะไรหรอกครับ ที่น่าคิดคือถึงแม้โพลล์สำนักต่างๆ ที่มีระดับความน่าเชื่อถือต่างๆ กัน แต่ก็รายงานผลความสนใจของประชาชนได้ตรงกันว่าเป็นเรื่องปากท้อง ค่าครองชีพและปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งก็เป็นความจริงที่ปรากฏทั่วไป อันนี้ทำให้เราไปดูแคลนโพลล์สำนักต่างๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ดูผลโพลล์เรื่องการเมืองก็จะพบความน่าสนใจตรงที่โพลล์หลายสำนักรวมทั้งโพลล์ที่ถูกมองว่ามักจะเชียร์รัฐบาลประยุทธ์ตลอดมาก็ยังสรุปตรงกันว่าคะแนนนิยมนายกฯ และรัฐบาลตกลงมากทีเดียว
โพลล์ทั้งหลายบอกเราว่า ประยุทธ์เป็นที่นิยมมากตอนที่ไม่มีใครมาเปรียบเทียบและไม่ค่อยถูกวิจารณ์ พอมีการวิจารณ์ได้มากขึ้นและมีคนมาให้เปรียบเทียบ ประยุทธ์ก็ตกอันดับลงอย่างฮวบฮาบ
ซึ่งเผอิญไปสอดคล้องกับการตั้งฉายาของผู้สื่อข่าวว่าอิเหนาเมาหมัดที่ทำให้นายกฯงอนไปหลายวัน และถูกซ้ำเติมด้วยวาทะแห่งปีที่ว่า “เบื่อนายกฯ” ที่ดูจะลามไปอย่างรวดเร็วจนเชื่อกันว่าเป็นขาลงของประยุทธ์และรัฐบาลแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งโพลล์ก็ตั้งคำถาม หรือทำให้เกิดเป็นปริศนาขึ้นเมื่อปรากฏผลออกมาว่านักการเมืองคนใดเป็นที่นิยมมากที่สุด ขณะที่นักการเมืองคนนั้นถูกห้ามไม่ให้เข้าสภาจนกระทั่งถูกทำให้พ้นจากความเป็น ส.ส.ไปแล้ว
ส่วนพรรคการเมืองที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งก็กำลังอยู่ในกระบวนการยุบพรรค สื่อมวลชนเสนอข่าวผลโพลล์เรื่องนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ กันไป บ้างเสนอผลโพลล์ไปตามข้อเท็จจริง บ้างไปเอาความเห็นตรงข้ามจากใครก็ไม่รู้มาพาดหัวแทน
แต่ที่ทำให้เกิดคำถามตามมามากอีกอย่างหนึ่งก็คือความพยายามเคลื่อนไหวเพื่อจุดประเด็น “วายร้ายตัวใหม่” ซึ่งพอเดากันได้ว่ากำลังพุ่งเป้าไปที่ไหน
แต่ถ้าจับเรื่องต่างๆ มาเชื่อมโยงกันแล้วก็จะเกิดคำถามว่า เอ๊ะ ทำไมวายร้ายมีคนสนับสนุนเยอะจัง สังคมไทยมักจะชอบพระเอก ทำไมวันนี้คนจำนวนมากกลายเป็นชอบวายร้ายไปได้ ไม่รู้ไปเอาผลโพลล์ที่ไหนมา