พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยสุขภาพอนามัยของราษฎร โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
วันนี้ (9 ธันวาคม 2562) เวลา 11.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 1,000 ผืน ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง ณ หอประชุมบ้านเทิดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ในตอนบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 1,200 ผืน ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่ อำเภอแม่จัน ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน จำนวน 1,300 ผืน ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาว ในพื้นที่อำเภอแม่สาย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยบรรเทาภัยหนาวจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวให้ได้รับทราบ สร้างความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหารแก่ผู้ที่เดินทางมารับผ้าห่มกันหนาวด้วย กับเชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวและผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน 2 ราย พื้นที่อำเภอแม่จัน จำนวน 2 ราย และพื้นที่อำเภอแม่สาย จำนวน 2 ราย พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจแก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว
จังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ทำให้อุณภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นถึงหนาวจัดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัด โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยติดกับแนวป่าไม้และเทือกเขาสูง ทำให้ราษฎรผู้สูงอายุ เด็กไร้อุปการะ ผู้พิการทุพพลภาพ ผู้มีรายได้น้อย ได้รับผลกระทบ จำนวน 75,729 คน