พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงปีนี้ (11 พ.ย. 62) กรุงเทพมหานครจัดงานลอยกระทงที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) และคลองโอ่งอ่าง พร้อมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนลอยกระทงบริเวณริมแม่น้ำ คูคลอง บึงน้ำ สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร และพื้นที่เอกชนอีกหลายแห่ง โดยกรุงเทพมหานครได้ระดมเจ้าหน้าที่ ทั้งจากสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ร่วมดำเนินการเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา ลำคลองต่างๆ และสวนสาธารณะทั้ง 30 แห่ง ที่เปิดให้ประชาชนลอยกระทงทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นับและคัดแยกกระทงเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา รวมจัดเก็บกระทงได้ทั้งสิ้น 502,024 ใบ กระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ จำนวน 483,264 ใบ คิดเป็นร้อยละ 96.3 และกระทงที่ทำจากโฟม จำนวน 18,760 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.7
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บกระทงปีนี้ ลดลงจากปี 2561 จำนวน 339,303 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 40.3 โดยเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายเพิ่มขึ้นจากปี 2561 จากร้อยละ 94.7 เป็นร้อยละ 96.3 ส่วนกระทงโฟม ลดลงจากร้อยละ 5.3 เป็นร้อยละ 3.7
สำหรับพื้นที่เขตที่มีปริมาณกระทงมากที่สุด คือ เขตลาดกระบัง จำนวน 33,353 ใบ ส่วนเขตที่มีปริมาณกระทงน้อยที่สุด คือ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จำนวน 214 ใบ เขตที่มีจำนวนกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมากที่สุด คือ เขตลาดกระบัง จำนวน 33,321 ใบ และเขตที่จำนวนกระทงโฟมมากที่สุด คือ เขตประเวศ จำนวน 1,250 ใบ
จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ปีนี้จำนวนกระทงที่จัดเก็บได้ลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่ร้อยละของกระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติก็ไม่ได้ลดลง แสดงว่าประชาชนและผู้จำหน่ายกระทงมีความตระหนักและให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง และนับจำนวนเพื่อเก็บสถิติ จากนั้นจะนำกระทงจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายง่าย ส่งไปยังโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ที่โรงงานขยะหนองแขม ส่วนกระทงโฟมและวัสดุที่ย่อยสลายยาก จะถูกนำไปทำลายโดยการฝังกลบ เพื่อรอการย่อยสลายต่อไป