เมื่อเวลา 11.00 น. (10 พ.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง "พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) นากรี" ฉบับที่ 19 ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) "นากรี" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 12.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในเช้าวันพรุ่งนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเวียดนามขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย
พายุนี้จะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-13 พฤศจิกายน ทำให้มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่ บริเวณ จ.มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พายุนี้จะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-13 พฤศจิกายน ทำให้มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่ บริเวณ จ.มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส
ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง