เมื่อเวลา 05.00 น. (30 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง "พายุระดับ 3 (โซนร้อน) แมตโต" ฉบับที่ 7 ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) "แมตโม" แล้ว โดยเมื่อเวลา 04.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันนี้ และจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศกัมพูชาในระยะต่อไป
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 29-31 ตุลาคม จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดสระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา
ในช่วงวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนัก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดอำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอุณภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา มีคลื่นสูง 1-2 เมตร และตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย รวมทั้งชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
