xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.เตือน 25 จังหวัดรับมือฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมแรง 29-31 ต.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสภาพอากาศและปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชันที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศกัมพูชาในระยะต่อไป ทำให้มีผลกระทบต่อประเทศไทย ในช่วงวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน ประกอบกับความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 29-31 ตุลาคม ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ในช่วง 1-2 วัน



จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 29-31 ตุลาคมนี้ แยกเป็นพื้นที่เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง ได้แก่ ภาคเหนือ 15 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์  ภาคกลาง 2 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์ และอุทัยธานี 

นายชยพล กล่าวต่อว่า พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ ภาคใต้ 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ ภาคใต้ 6 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ฝนตกสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ตลอดจนขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป