นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายในวันนี้ เป็นการอภิปรายใน 3 ประเด็นหลักๆ คือ 1.เรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนโดยไม่เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญตามมาตรา 161 ซึ่งขอใช้คำว่า จงใจ เจตนา ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 2. เป็นการแถลงนโยบายโดยไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่ใช้ในการดำเนินการนโยบายตามมาตรา 162 และ 3. คือข้อเสนอแนะ และข้อสรุปซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำโดยเจตนา ไม่ใช่การเผลอเลอหรือพลั้งเผลอ มันบอกว่าการกระทำไม่ครบถ้วนตามมาตรา 161 เป็นการกระทำโดยเจตนา ในขั้นตอนของวิธีการซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าครบถ้วนตามกระบวนการ ไม่มีใครเถียง แต่เจตนาที่ชัดเจนคือไม่ทำตามแบบแผนประเพณีปฏิบัติ การกล่าวถวายสัตย์เป็นการกล่าวด้วยความจริงใจต่อหน้าองค์พระมหากษัตริย์ ต้องมีแบบแผน และแบบแผนเขียนเป็นกฎหมาย กฎหมายคือรัฐธรรมนูญว่าเป็นไปตามนั้นแต่การกระทำของนายกรัฐมนตรีไม่ยึดถือแบบแผน แต่การนำเอาคำถวายสัตย์ฯ ในกระดาษจากกระเป๋าเสื้อของตนเองขึ้นมา แล้วกล่าว นี่คือเจตนาชัดเจน และกระดาษแข็งแผ่นนั้นมีถ้อยคำเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน มีคำว่าตลอดไปอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น ถือได้ว่าเป็นการเจตนาแล้ว จึงถือได้ว่าเป็นเจตนาการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เจตนานั้นเป็นเพราะสิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องการคือ ต้องการที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ว่าจะด้วยกลไกลและวิธีการใดๆ ก็แล้วแต่ ถือได้ว่าเป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ