นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ระดมมา 260 เครื่อง ท้ายแม่น้ำมูล อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.โขงเจียม จะเสร็จวันพรุ่งนี้แน่นอน ทำให้ปริมาตรน้ำที่จะระบายลงสู่แม่น้ำโขงต่อวันมากขึ้น วันนี้ (16 ก.ย.) ระดับน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ M 7 สะพานเสรีประชาธิปไตยฝั่งอำเภอเมืองลดลงจากเมื่อวานนี้จนต่ำกว่าตลิ่ง 12 เซนติเมตร ส่วนอำเภอวารินชำราบอีกฝั่งของแม่น้ำมูลยังสูงกว่าตลิ่ง 3.74 เมตร
สำหรับศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) ตั้งอยู่ที่สำนักชลประทานที่ 7 จ.อุบลราชธานี ได้ทำแบบจำลองคาดการณ์สถานการณ์น้ำ อ.วารินชำราบ ซึ่งยังมีน้ำท่วมสู่ง ปรากฏว่าตั้งแต่วันที่ 17-30 กันยายน น้ำจะลดลงอย่างรวดเร็ว โดย 2 วันแรกลดเฉลี่ยวันละ 12 เซนติเมตร อีก 4 วันถัดไปลดลงเฉลี่ย 20 เซนติเมตรต่อวัน จากนั้นจะลดลงวันละ 30-35 เซนติเมตรต่อเนื่องอีก 4 วัน และช่วงท้ายจะลดลงวันละ 45 เซนติเมตร เมื่อถึงวันที่ 29 กันยายน เวลา 18.00 น.ระดับน้ำจะอยู่ที่ 7 เมตร เท่ากับระดับตลิ่ง
ทั้งนี้ เมื่อระดับน้ำเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้ว การบริหารจัดการน้ำในลำน้ำมูลยิ่งทำได้สะดวกขึ้น สามารถเร่งผลักดันน้ำออกสู่แม่น้ำโขงได้รวดเร็ว ประชาชนสามารถกลับบ้านเรือนได้ ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำขังจะนำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบออก
นายทองเปลว กล่าวว่า กรมชลประทานเร่งบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูลให้คลี่คลายได้ก่อนที่กำหนดไว้เดิม 2-3 วัน เนื่องจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยระบุว่าน้ำท่วมนานทำให้ประชาชนยิ่งทุกข์ จึงกำชับให้ศูนย์ฯ ส่วนหน้าดำเนินทุกมาตรการเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด ระหว่างที่น้ำยังท่วมอยู่ให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกด้านและเมื่อพื้นที่ใดน้ำลดแล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพทันที