นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังหอการค้าไทยเข้าพบว่า หอการค้าไทยได้มีข้อเสนอเพื่อผลักดันด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และด้านบริการ โดยได้เห็นชอบในหลักการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะนำข้อเสนอต่าง ๆ ไปพิจารณา เช่น มาตรการทางภาษีสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยว การขยายเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน
ส่วนความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนที่ออกไป ขณะนี้มีร้านค้าที่มาลงทะเบียนเพื่อให้บริการผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินแล้ว 32,000 ร้านค้า จากเป้าหมาย 40,000 ร้านค้า เมื่อรวมกับร้านธงฟ้าที่มึเครื่องอีดีซี และถุงเงินประชารัฐที่มีอยู่แล้ว 80,000 ร้านค้า รวมเป็น 120,000 ร้านค้า รองรับการใช้จ่ายของประชาชนได้ ขณะที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีสติกเกอร์ติดอยู่ที่หน้าร้าน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และจะมีรายชื่อร้านค้าอยูในแอปพลิเคชันถุงเงินด้วย
นายอุตตมา กล่าวว่า เมื่อครั้งก่อนมีร้านค้ามาลงทะเบียนแค่ 2,800 ร้าน แต่วันนี้อยู่ที่ 32,000 ร้าน ฉะนั้นจึงมั่นใจว่าจะเพียงพอต่อการใช้จ่ายให้ได้ตามเป้าของรัฐบาล 10 ล้านคนแน่นอน ขณะเดียวกัน หากครบ 40,000 ร้านค้า ก่อนหมดเขตการเปิดรับลงทะเบียนผู้ประกอบการวันที่ 20 กันยายนนี้ ก็จะเปิดรับต่อไป ซึ่งอยากได้มากที่สุดเท่าที่จะได้
สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งปี 2562 และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 62/63 ไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้มีความพร้อมที่จะจ่ายเงินล็อตแรกลงสู่ระบบได้ภายในสัปดาห์หน้า โดย ธ.ก.ส.ได้รายชื่อเกษตรกรจำนวน 2 ล้านราย จากสำนักงานส่งเสริมการเกษตรเรียบร้อยแล้ว