นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -27 สิงหาคม 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกทั้งสิ้น 77,575 ราย เพิ่มขึ้น 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปี พบมีจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าค่ามัธยฐานตั้งแต่ต้นปี ส่วนอัตราป่วยตายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ล่าสุดพบเสียชีวิต 81 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 5-14 ปี, 15-34 ปี และแรกเกิด-4 ปี ตามลำดับ
สำหรับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ อุบลราชธานี รองลงมาคือ จันทบุรี นครราชสีมา เชียงราย และระยอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากพบผู้ป่วยสูงสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา คาดว่าช่วงนี้จำนวนผู้ป่วยจะเริ่มมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่จากฝนที่ตกลงมาในหลายพื้นที่ทำให้มีน้ำท่วมขัง ซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ กรมควบคุมโรคจึงขอแนะนำประชาชนให้ดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ช่วยกันดำเนินมาตรการ "3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค" คือ เก็บบ้าน ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และเก็บน้ำ ให้มิดชิด มีฝาปิด ป้องกันยุงลายวางไข่ ป้องกันตัวไม่ให้ถูกยุงกัดด้วยการทายากันยุง นอนในมุ้ง ซึ่งจะช่วยป้องกันได้ถึง 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย พร้อมย้ำหากประชาชนป่วยมีไข้สูงลอยควรหลีกเลี่ยงการซื้อยากินเอง หากจำเป็นจริงๆ ให้ใช้เฉพาะยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาในกลุ่ม NSAID เด็ดขาด เช่น ยาแอสไพริน ยาไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เลือดออกมากขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1422