นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยว่า ได้ไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยขอให้ไต่สวนและส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กรณีการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งมาตรา 161 ที่บัญญัติถึงถ้อยคำการถวายสัตย์ปฏิญาณฯ และมาตรา 162 ที่กำหนดไว้ว่า ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่จะต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาดำเนินนโยบาย รวมถึงมาตรา 5 ที่บัญญัติไว้ว่า การกระทำใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำนั้นจะบังคับใช้ไม่ได้
นายเรืองไกร กล่าวถึงเหตุจากการกล่าวถวายคำสัตย์ปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่ต่อพระมหากษัตริย์ที่ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนหนึ่ง และอ้างว่า ก่อนประชุมร่วมรัฐสภา ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย 8 คน เข้าชื่อเสนอต่อนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภา เนื่องจากเห็นว่าคำแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 162 หรือไม่ จึงขอเสนอให้เลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาออกไป แต่ประธานไม่ได้สั่งเลื่อนการประชุม ซึ่งถือเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา และยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามมาตรา 161 ไม่ครบนั้น จะมีความผิดใดตามกฎหมาย และมาตรา 234 (1) เป็นอำนาจ ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการในเรื่องนี้