นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ไทยเผชิญความไม่แน่นอนจากปัจจัย ทั้งภายในและนอกประเทศในครึ่งหลังของปี 2562 นี้ เสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ และความสามารถในการบริหารประเทศจะเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าดำเนินไปได้ด้วยดี อาจกลายเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว รวมทั้งการส่งออกและการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนของไทยจะเข้มแข็ง แต่ไม่น่าจะสามารถทดแทนการลงทุนที่ชะลอตัวและผลกระทบจากสงครามการค้าได้
ทั้งนี้ นายทิม มองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% และเริ่มปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2563 หากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกเอื้อ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินจากดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในอัตราที่ต่ำมานาน
ทั้งนี้ นายทิม มองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% และเริ่มปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2563 หากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกเอื้อ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินจากดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในอัตราที่ต่ำมานาน