พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปโครงการปรับปรุงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ความยาว 1.5 กิโลเมตร มีความลึก 9 เมตร พบว่าไม่สามารถรองรับความต้องการของเรือขนาดใหญ่ได้ ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางเพราะจะต้องนำเรือเล็ก ออกไปรับผู้โดยสารจากเรือขนาดใหญ่ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่ง ปัญหาความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นทำให้จังหวัดภูเก็ตไม่สามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจเรือสำราญที่กำลังเติบโตอย่างมาก ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลลงทุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกของจังหวัดภูเก็ต คือ การขยายร่องน้ำให้มีความลึก 12 เมตร และสร้างแนวกันคลื่น บริเวณแนวเกาะตะเภาใหญ่ เพื่อให้เรือขนาดใหญ่สามารถหลบมรสุมในช่วงฤดูมรสุมได้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กรมเจ้าท่าที่เป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยให้ไปหารือกับภาคเอกชนดำเนินการ ซึ่งเบื้องต้นให้แก้ปัญหาเรื่องหลักจอดเรือกันคลื่นมรสุม บริเวณเกาะตะเภาใหญ่ ให้กับเรือสำราญขนาดใหญ่จอดเป็นการชั่วคราวก่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงสั่งการให้ไปศึกษารายละเอียดให้รอบด้าน ทั้งการขุดร่องน้ำให้ลึก 12 เมตร และความกว้างของร่องน้ำ 13 เมตร จะทำให้เรือสำราญขนาดใหญ่สามารถกลับลำได้ หรือต้องถอยหลังเข้าเทียบท่า ตลอดจนจะต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณเท่าไรในการก่อสร้าง พร้อมย้ำว่า การดำเนินการจะต้องรัดกุม เพื่อปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการปรับปรุงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตแล้วเสร็จ จะทำให้ จ.ภูเก็ต สามารถรองรับนักท่องเที่ยว จอดเรือสำราญขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างมากได้มากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงจุดแวะพักชั่วคราวเหมือนที่ผ่านมา