xs
xsm
sm
md
lg

“พีระพันธุ์”จวกผู้ใหญ่ที่นับถือ 30 ปี แท้จริงเป็นเพียงภาพลวงตา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ และเป็นอดีตผู้เสนอชื่อชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค”ระบุว่า พลังเล็กๆ จากหัวใจที่ยิ่งใหญ่

ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้กล่าวคำขอบคุณจากใจถึงเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกระดับทุกสถานะรวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป ที่เป็นกำลังใจและแสดงออกถึงการสนับสนุนผมให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา

ช่วงเวลาหกวันนับแต่วันที่ผมประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ว่าผมจะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผมได้รับกำลังใจ และการสนับสนุนอย่างท่วมท้นอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งจากสมาชิกพรรคและประชาชนทั่วไป ทั้งจากการติดต่อพูดคุยกันโดยตรงและจากข้อความทางโทรศัพท์ และทางโซเชียลมีเดีย

มีผู้ใหญ่หลายท่านกรุณาโพสต์ข้อความสนับสนุนผม เช่น ท่านชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาที่รู้จักผมมากว่า 30 ปี คุณชัย ราชวัตร ที่ผมไม่เคยรู้จักพูดคุยเป็นการส่วนตัวมาก่อน เพียงแค่ชื่นชมในผลงานและจุดยืนของท่านผ่านสื่อเท่านั้น หลังสุดคือ ท่านใหม่ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ผมไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน แต่คงเป็นเพราะท่านเห็นด้วยกับแนวทางที่ผมเสนอว่าประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน และต้องธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ท่านคงเชื่อมั่นว่าผมจะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปในทิศทางที่ตอบสนองความมุ่งหวังของประชาชนได้จริง ไม่ใช่เพราะท่านสนับสนุนผมเป็นการส่วนตัว ผมต้องขอกราบขอบพระคุณท่าน และท่านอื่นๆจากใจจริงๆ

หกวันของการหาคะแนนเสียงนั้น ผมได้เห็นได้เรียนรู้อะไรต่ออะไรเพิ่มขึ้นมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนหลายๆ คน

ผมเพิ่งจะประจักษ์ ด้วยตัวผมเองว่าผู้ใหญ่บางคนที่ผมเคยเคารพนับถือมาเกือบ 30 ปี ที่ผมเคยเชื่อว่าดี แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงภาพลวงตา ใครไม่ยอมอยู่ในอาณัติ หรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกันเมื่อใดก็กลายเป็นคนที่ต้องถูกพิฆาต แผ่บารมีต่อต้านวาดภาพให้เป็นคนไม่ดี เป็นคนของคนนั้นคนนี้ เพื่อให้ดูไม่ดีในสายตาเพื่อน

บารมีมากล้นที่ควรจะวางตัวเป็นกลางเพื่อสร้างเอกภาพกลายเป็นตัวตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น

แต่ก็น่าชื่นใจที่ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ผมไม่เคยสนิทสนมด้วยกลับกลายเป็นนักสู้ใจเด็ดที่ไม่ยอมสยบให้กับอำนาจบารมีที่มากล้นอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมและทีมงานซึ่งเป็นเพียงสมาชิกพรรคตัวเล็กๆ ฮึดสู้ สู้ทั้งที่รู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไรและจะเผฃิญกับอะไรต่อไปในอนาคต

เมื่อผลการเลือกหัวหน้าพรรคออกมา ผมได้รับกำลังใจอย่างมากมาย บ่นเสียดายบ้าง ขออย่าท้อถอยบ้าง และพยายามปลอบผมว่า ไม่ต้องเสียใจ

ผมขอกราบเรียนตรงๆ ณ ที่นี้ว่าผมไม่มีความรู้สึกเสียใจใดๆ เลย ตรงกันข้ามผมติดต่อให้กำลังใจเพื่อนๆทุกวัน ว่าอย่าหมดกำลังใจ อย่าท้อถอย และอย่าเสียใจ เพราะเราทำได้ดีที่สุดแล้วในระยะเวลาเพียงแค่หกวัน พลังเล็กๆที่มาจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราและเพื่อนๆในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวันข้างหน้า

ผมบอกเพื่อนๆ ว่าเราควรดีใจและภูมิใจอย่างยิ่งที่สมาชิกพรรคตัวเล็กๆอย่างพวกเราและเพื่อนๆที่ร่วมทำงานกันมาเพียงแค่หกวันกลับได้รับเสียงสนับสนุนจากเพื่อน ส.ส. ถึง 20 เสียง น้อยกว่าทีมผู้ชนะเพียง 5 เสียงเท่านั้น

พวกเขาต่างหากที่ควรจะต้องเสียใจและหมดกำลังใจ เพราะแสดงให้เห็นว่าพลังแห่งอำนาจบารมีที่สั่งสมร่วมกันมาหลายสิบปีนั้น บัดนี้เริ่มเสื่อมถอยลงแล้ว สามารถสนับสนุนเอาชนะพลังเล็กๆของพวกเราที่ทำงานกันมาเพียงแค่หกวัน ได้เพียงแค่ 5 คะแนนในส่วนของ ส.ส. 52 คน และเพียงแค่ 50 คะแนน ในส่วนขององค์ประชุมอื่นประมาณ 250 คน

บารมีอันมากล้นชนะพวกเราได้เพียงเท่านั้นเองจริงๆ

การที่อิทธิพลบารมีที่แอบแฝงเป็นเงาอยู่สามารถชนะพวกเราได้เพียงเท่านี้ ทั้งๆที่พวกเราทำงานกันเพียงแค่หกวัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและบ่งชี้ถึงความเสื่อมถอยของพวกเขาใช่หรือไม่

และไม่แน่ กลุ่มบารมีมากล้นนี้อาจแตกคอกันในเรื่องการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลก็อาจเป็นได้ ซึ่งก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกปัญหาหนึ่งต่อไป

ผมขอให้กำลังใจ คุณกรณ์ จาติกวณิช และคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน และขอแสดงความยินดีกับท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ผู้ที่ผมให้ความเคารพรักเหมือนพี่ชายตลอดมา ผมขอให้ท่านนำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ในใจของประชาชนอีกครั้งหนึ่งให้ได้

ตอนนี้ยังไม่หายเหนื่อย ตลอดหกวันของหาคะแนนเสียงนั้นแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เดี๋ยวก็ต้องไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งใหม่ที่เชียงใหม่อีกด้วยครับ ขอเวลาให้หายเหนื่อยก่อนครับ ผมจะเล่าเรื่องการเลือกหัวหน้าของพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเบื้องหลังการทำงานของผม และเพื่อนๆตั้งแต่ต้นจนถึงวันเลือกหัวหน้าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ว่าพวกเราทำงานอย่างไร ต้องเผชิญอุปสรรค และต้องต่อสู้กับอะไรอย่างไร แล้วจะเล่าให้ฟัง