xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กทม.ซ้อมริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์จากหอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวังไปยัง ก.มหาดไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วันนี้ (4 เม.ย.) เวลา 13.15 น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมายังหอศาตราคม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อร่วมซ้อมริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร จากหอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวัง ไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อที่จะทำพิธีปลุกเสกน้ำอภิเษก รวมกับน้ำอภิเษกจาก 76 จังหวัด ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 18 เม.ย.62

เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาถึง ได้ซ้อมการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในหอศาสตราคม จากนั้นได้เชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากหอศาสตราคมขึ้นรถยนต์บริเวณหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เพื่อออกไปยังริ้วขบวนที่คณะผู้บริหารระดับสูงของ กทม.จำนวน 327 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับต้น ผู้อำนวยการระดับสูง และผู้อำนวยการระดับต้น ตั้งแถวรออยู่ที่ถนนหน้าพระลาน

กระทั่งเวลา 13.45 น.ขบวนเชิญเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร เพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องดอกแก้ว ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ประกอบด้วย วงดุริยางค์ ริ้วธงจำนวน 100 คน รถเมื่อรถยนต์เชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ และคณะผู้บริหารของ กทม.อีก 327 คน ได้เริ่มเคลื่อนขบวนอย่างช้าๆ ทว่าเต็มไปด้วยความพร้อมเพรียง ซึ่งการเคลื่อนริ้วขบวนนั้นเป็นการเดินตามจังหวะกลองประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยเส้นทางเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ รถยนต์เริ่มจากหน้าพระทีนั่งอมรินทรวินิจฉัย เลี้ยวขวาประตูพิมานไชยศรี แล้วเลี้ยวขวาประตูวิเศษไชยศรี ในพระบรมมหาราชวังมาตั้งริ้วขบวนยังถนนพระลานตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ จากนั้นริ้วขบวนจะเคลื่อนจากถนนหน้าพระลานเลี้ยวขวาแยกศาลหลักเมือง และเลี้ยวซ้ายถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เข้าสู่กระทรวงมหาดไทย จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงจากรถยนต์ และอัญเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปยังห้องดอกแก้ว ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ

สำหรับหอศาสตราคม หรือ หอพระปริตร ตั้งอยู่ในกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ตรงข้ามกับพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเห็นพระที่นั่งโถง ลักษณะเดียวกับพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้รื้อพระที่นั่งองค์เดิมแล้วสร้างหอศาสตราคม เพื่อให้พระสงฆ์ฝ่ายรามัญนิกาย ทำพิธีสวดพระพุทธมนต์สัตปริตรคาถาเสกน้ำพระพุทธมนต์ สำหรับสรงพระพักต์ และ น้ำสรง ตลอดทั่งประพรมรอบพระมหามณเฑียร ในอดีตเมื่อมีการศึกสงครามได้ประกอบพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทหารในการรบ ด้วยเหตุนี้จึงเขียนลายเครื่องอาวุธโบราณ ไว้ที่บานประตูหน้าต่างทุกบาน

รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 มีการสวดทำน้ำพระพุทธมนต์ถวายสรง และนิมนต์พระสงฆ์เข้าประพรมน้ำพระพุธมนต์รอบพระมหามณเฑียรทุกวัน ปัจจุบันนิมนต์พระสงฆ์สวดทำน้ำพระพุทธมนต์ และประพรมรอบพระมหามณเฑียรทุกวันพระ ของเดือน และมีพิธีสวดเจริญพุธมนต์รอบละ2เวลา เช้า-บ่าย ส่วนการถวายน้ำพระพุทธมนต์สำหรับสรง ยังคงถวายทุกวัน ตามโบราณราชประเพณี และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530,พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542,พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และครั้งนี้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากหอศาสตราคมแห่งนี้จะใช้ในการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำ และเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่วัดสุทัศน์ฯ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4 พ.ค.62 ที่จะถึงนี้