นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากปัญหาภัยแล้งรุนแรงในหลายพื้นที่ได้ส่งต่อผลผลิตการเกษตร โดยผักสดบางชนิดเสียหาย ผลผลิตลดลง ราคาเริ่มสูงขึ้น เช่น มะนาว คะน้า โดยในส่วนของมะนาว อยากเสนอให้ประชาชนใช้สินค้าอื่นทดแทนไประยะหนึ่งก่อน โดยกรมการค้าภายในเฝ้าติดตามดูอย่างใกล้ชิด และเตรียมเชื่อมโยงสินค้าพืชอื่นมาทดแทนพืชที่มีราคาสูง โดยคาดว่าเดือนพฤษภาคม ภัยแล้งน่าจะคลี่คลายลง สถานการณ์ราคาสูงก็ลดลง ซึ่งผักบางชนิดใช้เวลาไม่ถึง 20 วันผลผลิตก็ออกสู่ตลาดได้แล้ว และจะประสานขอความร่วมมือสหกรณ์ต่างๆ ที่มีการแปรรูปผลผลิตปีก่อนๆ ไว้ให้นำออกสู่ตลาดเพื่อลดผลกระทบจากราคามะนาวในบ้างพื้นที่ปรับสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนผลไม้มังคุด ซึ่งเป็นผลไม้ต้องการน้ำน้อย เมื่อปีนี้พื้นที่ปลูกน้ำน้อยก็จะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และคาดผลผลิตช่วง 2 เดือนจากนี้ จะมีปริมาณ 1.8 แสนตัน สูงกว่าปี 2561 ที่มีฝนชุก จึงมีผลผลิตแค่ 9 หมื่นตัน และยังมากกว่าปี 2560 ที่มีผลผลิตรวม 1.5 แสนตัน จึงมีผลต่อราคามังคุดต้นฤดูลดลงร้อยละ 10 หรือเฉลี่ย 30-40 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งกรมการค้าภายในได้เตรียมรับมือแล้วโดยหารือห้างค้าปลีก เครือข่ายร้านธงฟ้า ตลาดสด สหกรณ์ เพื่อเชื่อมโยงและรับซื้อเพิ่มเพื่อกระจายผลผลิต และหารือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมจัดกิจกรรมโปรโมตกินมังคุด
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนผลไม้หน้าร้อนชนิดอื่น ที่กำลังมีผลผลิตออกสู่ตลาด เช่น ทุเรียน เงาะ พบว่าราคายังใกล้เคียงปีก่อนๆ แต่หลายหน่วยงานมีการติดตามปัญหาเหล่านี้ไว้บ้างแล้ว จึงคิดว่าภัยแล้งในปีนี้ไม่น่ากังวลมากนัก