นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวภายหลังจากการประกาศคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์อาจจะได้ 1 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนขอขอบคุณประชาชนทุกคะแนนที่มอบให้กับพรรคไทยศรีวิไลย์ แต่ตนก็ไม่มั่นใจว่าพรรคจะได้ที่นั่งในสภาฯ เพราะในการนับคะแนนแต่ละช่วงก่อนที่ กกต.จะประกาศออกมานั้น ทางพรรคก็ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะได้ที่นั่งหรือไม่ ดังนั้น ตนจึงอยากจะรอให้ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเสียก่อน จึงจะได้แสดงความเห็นว่าทิศทางอนาคตของพรรคจะไปทางไหน
นายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่า ขณะนี้มี 2 ขั้วการเมือง ที่มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล โดยขั้วแรกได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เมื่อรวมเสียงกันแล้วก็ได้เสียงสนับสนุนแบบปริ่มน้ำ คือทุกพรรคที่เข้ามาร่วมจะต้องคุมไม่ให้ ส.ส.ลุกหนีไปไหนระหว่างประชุมสภา ส่วนอีกขั้วหนึ่ง ถึงแม้พยายามจะอ้างถึงเสียงประชาชนที่เลือกพวกเขามามาก แต่จำนวน ส.ส.ก็ไม่เท่ากับขั้วการเมืองแรก เพราะบางพรรคก็มีทีท่าที่จะสงวนท่าทีก่อนการตัดสินใจ ดังนั้น หากพรรคไทยศรีวิไลย์จะเข้าร่วมกับขั้วไหน ก็ต้องสอบถามความคิดเห็นของสมาชิกพรรคเสียก่อน เพราะถึงแม้ว่าตนจะมีเสียงเดียว ซึ่งสามารถจะตัดสินใจด้วยตัวเองเลยก็ได้ แต่ตนต้องการส่งเสริมให้พรรคมีกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ก็จะให้คำตอบว่า พรรคไทยศรีวิไลย์จะไปอยู่ขั้วไหน โดยคำนึงถึงการตัดสินใจของสมาชิกและประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากขั้วการเมืองใดยอมรับเงื่อนไขให้พรรคไทยศรีวิไลย์สามารถตรวจสอบการทุจริตทั้งโครงการในอดีต เช่น โครงการสินบนโรลสรอยซ์ โครงการทุจริตรับจำนำข้าว และโครงการใหม่ที่รัฐบาลมีขึ้นในอนาคต เพื่อให้โครงการต่างๆ ของทางรัฐบาลมีความโปร่งใส เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อีกทั้งหากเปิดโอกาสให้พรรคไทยศรีวิไลย์นำนโยบาย 10 ข้อที่หาเสียงกับประชาชน มานำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อนำไปพิจารณาและสามารถผลักดันนโยบายเป็นรูปธรรมแล้ว ก็สามารถร่วมรัฐบาลได้ แต่ถ้าหากได้ทำงานเป็นฝ่ายค้าน ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ชูแนวคิดที่สำคัญในช่วงการหาเสียงว่า "เรามาเพื่อปราบโกง" ดังนั้น ตนจะทำงานในสภาอย่างเต็มที่ เปรียบเสมือนเป็นยามเฝ้าแผ่นดินเพื่อป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ และจะสร้างบทบาทในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประชาชนสามารถจดจำการทำงานของตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะสนับสนุนพรรคไทยศรีวิไลย์ จนมี ส.ส.ในสภาเพิ่มมากขึ้น