นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) สรุปผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยผู้สมัครของพรรคได้คะแนนนำทั้งหมด 6 เขต ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี เขต 1 นายสรชัด สุจิตต์ เขต 2 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ เขต 3 นายประภัตร โพธสุธน เขต 4 นายเสมอกัน เที่ยงธรรม จ.ร้อยเอ็ด เขต 1 นายอนุรักษ์ จุรีมาศ และ จ.นครปฐม เขต 2 นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส่วนผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่หากคำนวณออกมาอย่างไม่เป็นทางการน่าจะได้ประมาณ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา นายธีระ วงศ์สมุทร นายนิกร จำนง นายนพดล มาตรศรี และนายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง
นายนิกร กล่าวว่า การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงอาจเป็นเหตุที่ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หยุดชะงัก ระบบจัดสรรปันส่วนผสมอาจจะมีปัญหาในการดึงคะแนนกันไปมา เลยยังไม่สามารถชี้ได้ชัดเจน ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาพอสมควร
ส่วนความชัดเจนในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายนิกร กล่าวว่า ไม่รีบ ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองยังไม่แน่นอน เนื่องจากการคำนวณบัญชีรายชื่อยังต้องใช้เวลา เชื่อว่าขณะนี้คงยังไม่มีการติดต่อทาบทาม เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดคุย
ขณะเดียวกัน นายนิกร ยังกล่าวถึงปัญหาเรื่องบัตรเสียและบัตรเกิน ว่า เรื่องบัตรเสียจะต้องพิจารณาเป็นอย่างมาก โดยปัญหาที่ได้พบ คือกระดาษของบัตรเลือกตั้งบางมาก บางคูหาเลือกตั้งใช้โต๊ะนักเรียนที่พื้นโต๊ะอาจจะไม่เรียบ ทำให้เวลากาเครื่องหมายซ้ำๆ กระดาษอาจจะขาดได้ จึงกลายเป็นบัตรเสีย ส่วนกรณีบัตรเกินยังไม่มีความชัดเจน แต่เชื่อว่าคงไม่มีการทำบัตรเกินมา เพราะ 350 เขต บัตรเลือกตั้งจะไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม กกต.ต้องเตรียมรับแรงกระแทก และเตรียมคำตอบให้ดี เนื่องจากประชาชนมีข้อสงสัย
สำหรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นายนิกร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่พอใจ แต่ก็ไม่เสียใจ
นายนิกร กล่าวว่า การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงอาจเป็นเหตุที่ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หยุดชะงัก ระบบจัดสรรปันส่วนผสมอาจจะมีปัญหาในการดึงคะแนนกันไปมา เลยยังไม่สามารถชี้ได้ชัดเจน ดังนั้น จึงต้องใช้เวลาพอสมควร
ส่วนความชัดเจนในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายนิกร กล่าวว่า ไม่รีบ ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองยังไม่แน่นอน เนื่องจากการคำนวณบัญชีรายชื่อยังต้องใช้เวลา เชื่อว่าขณะนี้คงยังไม่มีการติดต่อทาบทาม เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดคุย
ขณะเดียวกัน นายนิกร ยังกล่าวถึงปัญหาเรื่องบัตรเสียและบัตรเกิน ว่า เรื่องบัตรเสียจะต้องพิจารณาเป็นอย่างมาก โดยปัญหาที่ได้พบ คือกระดาษของบัตรเลือกตั้งบางมาก บางคูหาเลือกตั้งใช้โต๊ะนักเรียนที่พื้นโต๊ะอาจจะไม่เรียบ ทำให้เวลากาเครื่องหมายซ้ำๆ กระดาษอาจจะขาดได้ จึงกลายเป็นบัตรเสีย ส่วนกรณีบัตรเกินยังไม่มีความชัดเจน แต่เชื่อว่าคงไม่มีการทำบัตรเกินมา เพราะ 350 เขต บัตรเลือกตั้งจะไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม กกต.ต้องเตรียมรับแรงกระแทก และเตรียมคำตอบให้ดี เนื่องจากประชาชนมีข้อสงสัย
สำหรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ นายนิกร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่พอใจ แต่ก็ไม่เสียใจ