นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงเพลงหนักแผ่นดิน ว่า เป็นเพลงที่แต่งขึ้นและเผยแพร่ใน พ.ศ. 2518 ด้วยเจตนารมณ์สร้างความแตกแยกภายในชาติ แบ่งระหว่างซีกขวาและกลุ่มนักศึกษา ทำให้นักศึกษาจำนวนมากต้องหนีเข้าป่าไปจับอาวุธ ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ เพลงนี้จึงนำไปสู่ความแตกแยกภายในชาติ แล้วสรุปท้ายด้วยการยึดอำนาจในช่วงเย็นวันที่ 6 ตุลาคม 2519
แม้ผู้บัญชาการทหารบกจะสั่งสถานีวิทยุยกเลิกเปิดเพลงหนักแผ่นดินแล้ว แต่การเปิดเสียงตามสายตามที่ทำการเหล่าทัพก็ไม่ควรเกิดขึ้น ณ วันนี้เราควรลดเงื่อนไขต่างๆ ตนขอเสนอให้ตามหาเพลงคืนความสุขมาเปิดแทน หรือไม่กล้าเปิด เพราะเพลงคืนความสุขฟ้องว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นความจริง ทำให้ตนคิดว่าอาจจะไม่มีเลือกตั้ง เพราะเมื่อได้ยินเพลงนี้ทีไร จะตามมาด้วยการรัฐประหารทุกครั้ง
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีใครสรุปได้ว่าจะไม่มีรัฐประหารอีก แม้รัฐธรรมนูญจะเขียนเอื้อเรื่องสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียงสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้เสียงมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะฉะนั้นพรรคพลังประชารัฐจะไม่มีความชอบธรรมใดๆ ในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผิดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่พยายามยุบอีกพรรคการเมืองหนึ่งก็ควรยุบพรรคพลังประชารัฐด้วย ตนคิดว่าปรากฎการณ์ต่าง ๆ รวมถึงเรื่องเพลงหนักแผ่นดิน เป็นเพราะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในวันที่ 24 มีนาคม และตนเชื่อว่าสถานการณ์ของประเทศไทยระหว่างมีหรือไม่มีการเลือกตั้งยัง 50-50