xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ชี้คอร์รัปชั่นไทยมีแนวโน้มลดลง หลังค่า CPI ปี 61 ได้ถึง 54 คะแนน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตรนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง ในวันนี้ (1 ก.พ.) โดยบรรยายเรื่องนนโยบายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตอนหนึ่งว่า กรณีองค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) ประกาศคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ปี 2018 ที่ระบุว่า ไทยได้ 36 คะแนน อยู่อันดับ 99 ของโลกนั้น ปัจจุบันค่า CPI ของไทยอยู่ระดับกลางของอาเซียน โดยเมื่อปลายปี 2561 ป.ป.ช. จัดตั้งสำนักเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริต จะทำหน้าที่มอนิเตอร์ค่าคะแนนจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยต้องดูคะแนนในแหล่งข้อมูลที่ลดลงเกิดจากอะไร และทำอย่างไรให้ดีขึ้น ส่วนแหล่งข้อมูลอื่นต้องดูว่าจะเพิ่มคะแนนอย่างไร นอกจากนี้ ยังประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รวมถึงรัฐบาล เพราะการทำให้ค่า CPI ดีขึ้น ต้องอาศัยการดำเนินการของรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ นอกจากค่าซีพีไอ ที่ถือเป็นการประเมินระดับนานาชาติแล้ว ประเทศไทยยังมีค่าดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย (CSI) ที่เป็นผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ปี 2555-2556 ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐต้องจ่ายเงินเพิ่มให้แก่เจ้าหน้าที่และนักการเมืองทุจริต เฉลี่ยร้อยละ 25-35 โดยปี 2557 เฉลี่ยร้อยละ 5-15 ปี 2558-2559 เฉลี่ยร้อยละ 1-15 และปี 2560 เฉลี่ย ร้อยละ 5-15 ดังนั้น หากลดการจ่ายเงินใต้โต๊ะ จะประหยัดงบประมาณได้ถึงหมื่นล้านบาท นอกจากนี้ การสำรวจค่า CSI ปี 2561 มีการจัดทำระดับคะแนน พบว่าปัญหาการคอร์รัปชั่นในไทยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งได้ 54 คะแนน และมีแนวโน้มจะได้ถึง 57 คะแนนในอนาคต โดยการทำงานของ ป.ป.ช. ต้องตระหนักทั้งค่าคะแนน CPI และ CSI ด้วย
ส่วนเรื่องการสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบายนั้น ตามกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช. ในการวางมาตรการเสริมในการสกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบายบนฐานธรรมาภิบาลในทุกขั้นตอน ทั้งในชั้นก่อตัวนโยบาย ชั้นการกำหนดนโยบาย ชั้นตัดสินใจนโยบาย ชั้นการนำนโยบายไปปฏิบัติ และในชั้นการประเมินนโยบาย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้จัดทำหลักเกณฑ์ใช้วัดเรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย ทั้งในขั้นตอนเริ่มต้นและขั้นตอนดำเนินนโยบาย หากเกินเกณฑ์ที่กำหนดจะถูกตรวจสอบ โดยมีการเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว เพราะกำลังจะมีการจัดการเลือกตั้ง และเตรียมที่จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป